dtmd-saw, Author at MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ https://www.mtec.or.th/author/dtmd-saw/ National Metal and Materials Technology Center Mon, 20 Oct 2025 08:38:46 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.3 https://www.mtec.or.th/wp-content/uploads/2019/03/favicon.ico dtmd-saw, Author at MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ https://www.mtec.or.th/author/dtmd-saw/ 32 32 จาก ‘ของเสียอุตสาหกรรม’ สู่ ‘คอนกรีตบล็อกคุณภาพมาตรฐาน’ https://www.mtec.or.th/stakeholders_perspective-tps-mr-separator/ Mon, 20 Oct 2025 00:36:03 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=40944 ปี 2566 ประเทศไทยมีกากของเสียอุตสาหกรรมรวม 19.82 ล้านตัน แบ่งเป็นของเสียไม่อันตราย 18.69 ล้านตัน และของเสียอันตราย 1.13 ล้านตัน การจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมเหล่านี้ ส่วนใหญ่ใช้วิธีการฝังกลบหรือเผาทำลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

The post จาก ‘ของเสียอุตสาหกรรม’ สู่ ‘คอนกรีตบล็อกคุณภาพมาตรฐาน’ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

ยกระดับ ‘กากซิโตรยิปซัม’ สู่ ‘วัตถุดิบ’ สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

ปี 2566 ประเทศไทยมีกากของเสียอุตสาหกรรมรวม 19.82 ล้านตัน แบ่งเป็นของเสียไม่อันตราย 18.69 ล้านตัน และของเสียอันตราย 1.13 ล้านตัน การจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมเหล่านี้ ส่วนใหญ่ใช้วิธีการฝังกลบหรือเผาทำลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นภาระต่อการจัดการในระยะยาว

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม มีภารกิจหลักในการจัดหาและบริหารจัดการวัตถุดิบ ทั้งจากแหล่งแร่ธรรมชาติ และวัตถุดิบทดแทนที่ได้จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย จึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมเพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีรีไซเคิลและอัปไซเคิล โดยมีศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นที่ปรึกษาโครงการ และมีห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม อาร์. เซพพาเรทเตอร์ เข้าร่วมโครงการ

ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม อาร์. เซพพาเรทเตอร์ เป็นผู้ประกอบกิจการโรงงานประเภท รง.105, 106 รับจัดการ คัดแยกกากของเสียอุตสาหกรรมประเภทของเสียไม่อันตราย รวมไปถึงผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการใช้ประโยชน์กากของเสียอุตสาหกรรมที่รับเข้ามาจัดการ เช่น เชื้อเพลิง RDF และสารปรับปรุงดิน

ห้างหุ้นส่วนจำกัดฯ มีกากอุตสาหกรรม เช่น เถ้าหนัก เถ้าลอย ทรายหล่อแบบใช้แล้ว รวมถึงกากอุตสาหกรรมต่างๆ จึงต้องการเพิ่มมูลค่ากากอุตสาหกรรมเหล่านี้ โดยนำกลับมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตคอนกรีตบล็อก เพื่อทดแทนปูนซีเมนต์ และมวลรวมจากธรรมชาติ

แม้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดฯ จะมีความพร้อมด้านสถานที่ แรงงาน และมีประสบการณ์ในการผลิตคอนกรีตบล็อก แต่เป็นการผลิตโดยอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้ปฏิบัติงานจึงไม่มีสูตรการผลิตที่แน่นอน อีกทั้งกากอุตสาหกรรมที่นำมาใช้ก็มีองค์ประกอบทางเคมีค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งย่อมส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้

ทีมที่ปรึกษาจึงดำเนินการวิจัยและพัฒนา โดยปรับปรุงสูตรการผลิตให้เหมาะสมกับกากอุตสาหกรรมแต่ละชนิด เพื่อให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอและมีสมบัติสอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

ทีมที่ปรึกษายังให้ข้อเสนอแนะแก่โรงงานในการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มีมาตรฐานและมีการควบคุมคุณภาพ รวมถึงใช้สูตรการผลิตที่เหมาะสมกับกากอุตสาหกรรมแต่ละชนิด

ผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการนี้ได้ช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนการผลิตได้ 5.29-19.78% นำความรู้เชิงวิชาการไปต่อยอดการผลิตคอนกรีตบล็อกให้มีคุณภาพดีขึ้น เพิ่มความสามารถในแข่งขัน อีกทั้งยังลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมการผลิตผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th หรือ
คุณณัฐพงศ์ ณ ลำพูน
กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กพร.
โทรศัพท์ 0 2430 6842 ต่อ 4211
อีเมล: Nattapong_n@dpim.go.th

The post จาก ‘ของเสียอุตสาหกรรม’ สู่ ‘คอนกรีตบล็อกคุณภาพมาตรฐาน’ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
ยกระดับ ‘กากซิโตรยิปซัม’ สู่ ‘วัตถุดิบ’ สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง https://www.mtec.or.th/stakeholders_perspective-tps-citro-gypsum/ Thu, 09 Oct 2025 04:41:55 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=40845 เศรษฐกิจแบบเส้นตรง (Linear economy) ซึ่งเน้นการผลิต-บริโภค-ทิ้ง ได้สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า ทำให้เกิดขยะปริมาณมาก ทั้งยังแฝงต้นทุนการจัดการสิ่งแวดล้อมไว้ด้วย หลายประเทศทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy)

The post ยกระดับ ‘กากซิโตรยิปซัม’ สู่ ‘วัตถุดิบ’ สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

ยกระดับ ‘กากซิโตรยิปซัม’ สู่ ‘วัตถุดิบ’ สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

เศรษฐกิจแบบเส้นตรง (Linear economy) ซึ่งเน้นการผลิต-บริโภค-ทิ้ง ได้สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า ทำให้เกิดขยะปริมาณมาก ทั้งยังแฝงต้นทุนการจัดการสิ่งแวดล้อมไว้ด้วย หลายประเทศทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) ซึ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมีภารกิจหลักคือการจัดหาและบริหารจัดการวัตถุดิบ ทั้งจากแหล่งแร่ธรรมชาติ และวัตถุดิบทดแทนที่ได้จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย เพื่อให้การใช้ทรัพยากรเป็นไปอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์และมูลค่าเพิ่มสูงสุด และลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการไทย

กพร. ได้ดำเนิน ‘โครงการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมเพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี’ ซึ่งจะช่วยยกระดับผู้ประกอบด้วยเทคโนโลยีรีไซเคิล (Recycle) และอัปไซเคิล (Upcycle) โดยมีศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เป็นที่ปรึกษาโครงการ

บริษัท ไทยซิตริกแอซิด จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกรดมะนาวโดยมีเจ้าของกิจการเป็นคนไทย บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดใหม่ และมุ่งประยุกต์เทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินธุรกิจแบบ Zero Waste ซึ่งมุ่งใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดของเสีย และส่งเสริมการนำวัสดุพลอยได้ในกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน

วัสดุพลอยได้ที่เกิดจากกระบวนการผลิตกรดมะนาวคือ ซิโตรยิปซัม (Citro-gypsum) บริษัทฯ  จึงต้องการพัฒนากระบวนการปรับปรุงซิโตรยิปซัมให้มีคุณภาพดีกว่าเดิม เพื่อนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยิปซัมบอร์ด แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ยังอาจนำไปใช้ทดแทนแร่ยิปซัมธรรมชาติที่คาดว่าจะขาดแคลนในอีก 30 ปีข้างหน้าได้อีกด้วย

ทีมวิจัยได้ลงพื้นที่เพื่อประเมินขอบเขตการพัฒนาและศึกษาบริบทที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงกำหนดกลยุทธ์การดําเนินงาน โดยเสนอให้ปรับปรุงคุณภาพกากซิโตรยิปซัมด้วยวิธีทางกายภาพ ทางเคมี และทางความร้อน

ทีมวิจัยร่วมกับบริษัทฯ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงคุณภาพซิโตรยิปซัมให้มีสมบัติใกล้เคียงกับยิปซัมธรรมชาติ มีรูปแบบพร้อมใช้งาน และใช้กับกระบวนการผลิตกรดมะนาวของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถปรับใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีอยู่ ไม่ต้องลงทุนซื้อใหม่

โครงการนี้ช่วยให้บริษัท ไทยซิตริกแอซิด จำกัด มีเทคโนโลยีปรับปรุงคุณภาพกากซิโตรยิปซัม ลดปริมาณและภาระในการจัดการกากซิโตรยิปซัม ทั้งยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ยิปซัมสังเคราะห์ นับเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกัน

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th หรือ
คุณณัฐพงศ์ ณ ลำพูน
กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กพร.
โทรศัพท์ 0 2430 6842 ต่อ 4211
อีเมล: Nattapong_n@dpim.go.th

The post ยกระดับ ‘กากซิโตรยิปซัม’ สู่ ‘วัตถุดิบ’ สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักโลหะภาคปฏิบัติ (วันที่ 15-16 ธันวาคม 2568) https://www.mtec.or.th/practical-fractography-of-metals/ Tue, 07 Oct 2025 03:33:02 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=40785 หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักโลหะภาคปฏิบัติ (วันที่ 15-16 ธันวาคม 2568) หลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักโลหะภาคปฏิบัติ(Practical Fractography of Metals) จัดโดยทีมวิจัยการวิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรรมการเชื่อถือ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  วันที่ 15 – ... Read more

The post หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักโลหะภาคปฏิบัติ (วันที่ 15-16 ธันวาคม 2568) appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักโลหะภาคปฏิบัติ (วันที่ 15-16 ธันวาคม 2568)

หลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการ
การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักโลหะภาคปฏิบัติ
(Practical Fractography of Metals)

จัดโดย
ทีมวิจัยการวิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรรมการเชื่อถือ 
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ 
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
 

วันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2568 เวลา 9.00-17.00 น.
ห้อง M120 อาคารเอ็มเทค อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี

หลักการและเหตุผล
        ในโลกของวิศวกรรมเครื่องกล โครงสร้าง และวัสดุศาสตร์ ความเสียหายและการแตกหักของชิ้นส่วนเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และต้นทุนอย่างมหาศาล เมื่ออุปกรณ์หรือโครงสร้างต้องเผชิญกับแรงทางกล ซ้ำๆ หรือรุนแรง จนนำไปสู่การแตกหักเสียหาย การเข้าใจถึงสาเหตุราก (Root Cause) ของปัญหานั้นคือหัวใจสำคัญของการป้องกันและพัฒนา
        การศึกษาผิวหน้าแตกหัก (Fractography) จึงเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการวิเคราะห์ความเสียหาย (Failure Analysis) เพราะผิวหน้าแตกหักที่เกิดขึ้นนั้นเปรียบเสมือนบันทึกหลักฐาน ที่ละเอียดอ่อนของกระบวนการเสียหายโดยมากกว่า 80-90% ของความเสียหายจากแรงทางกลที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรกลและโครงสร้างต่างๆ นั้นมีสาเหตุมาจากการล้า (Fatigue Failure) ข้อมูลบนผิวหน้าแตกหักจึงสามารถบ่งบอกถึง:
   • จุดเริ่มต้น ของรอยแตก
   • ทิศทางการขยายตัว ของรอยแตก
   • ระยะเวลา รอยแตกขยายตัว
   • ลักษณะและทิศทางของแรง ที่กระทำต่อชิ้นงานขณะเกิดความเสียหาย
        การทำความเข้าใจและตีความหลักฐานเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแตกหักจากการล้า (Fatigue Fractures) จึงเป็นทักษะที่นักวิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรทุกคนต้องมี เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายในรูปแบบเดิม ๆ เกิดขึ้นซ้ำอีก
        เป้าหมายของหลักสูตร: จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง
        คำถามสำคัญที่นักวิเคราะห์ความเสียหายต้องตอบให้ได้คือ: “เราจะระบุจุดเริ่มต้นของรอยแตกได้อย่างแม่นยำได้อย่างไร และจะขยายผลเพื่อค้นหาปัญหาทางวัสดุได้อย่างไร?”
        หลักสูตรการอบรมนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบคำตอบเชิงปฏิบัติที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักผ่านการผสมผสานระหว่างการบรรยายเชิงทฤษฎี และ ประสบการณ์ตรง ที่ทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้สั่งสมมามากกว่า 25 ปี
        ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้และฝึกฝน:
   1.การตรวจสอบระดับมหภาคและจุลภาค (Macro and Micro-level Examination):
      o การตรวจด้วยสายตาและกล้องจุลทรรศน์สเตอริโอ (Stereo Microscope): เพื่อยืนยันรูปแบบการแตกหัก (Fracture Modes)
      o การใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM): เพื่อยืนยันกลไกการแตกหัก (Fracture Mechanism) ด้วยความละเอียดในระดับนาโนเมตร
   2.การประยุกต์ใช้ความรู้ในภาคปฏิบัติ: มีการแสดงและสาธิตเครื่องมือจริงจากบริษัทเอกชนชั้นนำ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ความเสียหายในสถานการณ์จริงได้อย่างทันที
 
        หลักสูตรนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ความเสียหายของคุณให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยการเจาะลึกศาสตร์แห่ง Fractography ที่พร้อมถ่ายทอดจากผู้มีประสบการณ์ตรงสู่การปฏิบัติจริง!
 
วัตถุประสงค์
        การจัดสัมมนา “การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหัก (Fractography)” ในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อพัฒนาผู้เข้าร่วมให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการวิเคราะห์ความเสียหายของชิ้นส่วนวิศวกรรมอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมสามารถ:
   1.สร้างความเข้าใจพื้นฐาน (Knowledge Foundation): มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกลไกและความเสียหายของการแตกหักในวัสดุโลหะ
   2.ระบุความสัมพันธ์ (Causal Relationship): ทราบถึงความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่าง สาเหตุ และ ผลกระทบที่นำไปสู่การแตกหัก
   3.เชื่อมโยงลักษณะและสาเหตุ (Interpretation Skill): เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ลักษณะที่ปรากฏบนผิวหน้าแตกหัก กับสาเหตุที่แท้จริงของการเสียหาย
   4.ยึดตามหลักปฏิบัติสากล (Standard Practice): ทราบแนวทางการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักตามหลักปฏิบัติที่เป็นสากลและเป็นที่ยอมรับในวงการวิศวกรรม
   5.จำแนกรูปแบบการแตกหัก (Fracture Mode Identification): สามารถแยกแยะและจำแนกรูปแบบผิวหน้าแตกหักต่างๆ จากลักษณะทางกายภาพที่ปรากฏ
   6.ระบุจุดเริ่มต้นและขยายผล (Root Cause Analysis): สามารถค้นหาจุดเริ่มต้นของรอยแตก และนำไปสู่การวิเคราะห์ขยายผลเชิงลึก เพื่อหามาตรการป้องกัน
   7.ถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer): สามารถนำเสนอและถ่ายทอดความรู้ และผลการวิเคราะห์ที่ได้รับให้กับทีมงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
รูปแบบกิจกรรม (Activity Format)
   • การอบรมภาคทฤษฎีเชิงประยุกต์: เน้นการบรรยายที่ผสมผสานหลักการทางทฤษฎีเข้ากับกรณีศึกษาและตัวอย่างจริงที่ทีมงานผู้เชี่ยวชาญเคยประสบมา เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานได้ทันที
   • การสาธิตเครื่องมือปฏิบัติการ: มีการประยุกต์ใช้เทคนิค Visual Inspection, แว่นขยาย กล้องสเตอริโอ รวมทั้ง SEM 
 
คุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการอบรม (Target Audience)
        หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับบุคลากรและผู้สนใจที่ต้องการพัฒนาทักษะเฉพาะทางด้านการวิเคราะห์ความเสียหาย:
   • วิศวกรและนักวิจัย: ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานด้านวิศวกรรมวัสดุ, วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมโลหการ, หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
   • บุคลากรในอุตสาหกรรม: ผู้ที่ปฏิบัติงานในแผนกซ่อมบำรุง, ควบคุมคุณภาพ, วิจัยและพัฒนา, หรือมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ความเสียหาย (Failure Analysis) ในอุตสาหกรรมต่างๆ
   • ผู้สนใจทั่วไป: ผู้ที่ต้องการยกระดับความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับความทนทานและการแตกหักของวัสดุ
 
วิทยากร 
   1. ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์; Dr.–Ing. (Materials Engineering)
   2. อ.สยาม แก้วคำไสย์; M. Eng (Metallurgical Engineering)
   3. อ.โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว; M. Eng (Metallurgical Engineering)
   4. อ.นิรุช บุญชู; M. Eng. (Metallurgical Engineering)
   5. อ.วิษณุพงษ์ คนแรง; B. Eng (Materials Engineering and Production Technology) 
   6. อ.วราพงศ์ ถองกระโทก; B. Eng (Materials & Metallurgical Engineering)
   7. อ.ดวงรดา ยุทธกำธร; M. Sci. (Materials Science)
 
กำหนดการ
วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม 2568
08:00 น. – 08:45 น. ลงทะเบียน
08:45 น. – 09:00 น. พิธีเปิดการสัมมนา โดย ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์
09:00 น. – 10:30 น. กลศาสตร์การแตกหัก (Fracture Mechanics) 
                                     (ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์)
10:30 น. – 10:40 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10:40 น. – 12:00 น.  ขั้นตอนการตรวจสอบผิวหน้าแตกหัก 
                                    รูปแบบและกลไกการแตกหัก (Fracture Modes and Mechanisms)
                                     (อ.วิษณุพงษ์ คนแรง)
12:00 น. – 13:00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:00 น. – 14:30 น. การระบุจุดเริ่มต้นรอยแตก (Fracture Origin Identification)
                                   – การระบุจุดเริ่มรอยแตกทางมหภาคด้วย Chevron, Radial, River, และ Beach marks 
                                   – จุดเริ่มรอยแตกทางจุลภาค (Microscale Crack-initiation Sites)
                                   – การตรวจสอบเชิงลึกบริเวณจุดเริ่มรอยแตก
                                    (อ.สยาม แก้วคำไสย์)
14:45 น. – 15:00 น. พักรับประทานอาหารว่าง
15:00 น. – 16:30 น. ภาคปฏิบัติ: การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักรูปแบบต่างๆ แบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 20 นาที/ตัวอย่าง เวียนจนครบทั้ง 5 สถานี
                                  สถานีที่ 1. ผิวหน้าแตกหักที่มีจุดเริ่มจุดเดียวและหลายจุด
                                  สถานีที่ 2. ผิวหน้าแตกหักที่เกิดจากการรับแรงแบบ torsional bending
                                  สถานีที่ 3. ผิวหน้าแตกหักจากการรับแรงแบบ unidirectional และ reversed bending
                                  สถานีที่ 4. ผิวหน้าแตกหักแบบ corrosion fatigue
                                  สถานีที่ 5. ศึกษาผิวหน้าแตกหักแบบเหนียว/เปราะในระดับมหภาคและจุลภาคด้วย SEM
(ทีมวิเคราะห์ความเสียหายฯ)
16:30 น. – 17:00 น. สรุปภาคปฏิบัติการศึกษาผิวหน้าแตกหัก 
                                   (อ.โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว)
 
วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2568
09:00 น. – 10:30 น. การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักจากการล้า (Analysis of Fatigue Fracture)
                                    กรณีตัวอย่างการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักจากการล้า
                                     (อ.สยาม แก้วคำไสย์)
10:30 น. – 10:45 น.   พักรับประทานอาหารว่าง
10:45 น. – 12:15 น.     กรณีตัวอย่างการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักในงานวิเคราะห์ความเสียหาย
                                     (อ.โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว)
12:15 น. – 13:15 น.       พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:15 น. – 15:00 น.     ภาคปฏิบัติการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักพร้อมทำสไลด์  (แบ่งเป็น 5 กลุ่ม)
                                     (อ.นิรุช บุญชู และ อ.ดวงรดา ยุทธกำธร)
15:00 น. – 16:30 น.   นำเสนอการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักกลุ่มละ 15 นาที 
16:30 น. – 17:00 น.   สรุปผลและมอบใบประกาศนียบัตร
 
การลงทะเบียน
ลงทะเบียนออนไลน์ผ่าน Google form: https://forms.gle/SYemF1ZZb5NMoPa27
 
ค่าลงทะเบียน
บุคคลทั่วไป/เอกชน ราคา 8,453 บาท/ท่าน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ข้าราชการ/พนักงานองค์กรรัฐ ราคา 7,900 บาท/ท่าน (ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม)
หมายเหตุ
– อัตราค่าลงทะเบียนรวมค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม อาหารกลางวัน เอกสารประกอบการอบรม 1 ชุด และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
– ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐ จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องหักภาษี 3%
รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ท่านเท่านั้น
 
การชำระค่าลงทะเบียน
โอนเงินเข้าบัญชี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 080-0-00001-0
สาขาอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
กรุณาส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่อีเมล boonrkk@mtec.or.th
 
   !!! การยกเลิกเข้าร่วมหลักสูตรอบรม !!!
   – กรณีท่านติดภารกิจ สามารถแจ้งยกเลิกล่วงหน้าก่อนวันอบรม “อย่างน้อย 5 วันทำการ (ไม่รวมวันเสาร์ – อาทิตย์)” สวทช. จะไม่คิดค่าปรับจากการดำเนินการ
   – กรณีท่านติดภารกิจ และแจ้งยกเลิกล่วงหน้าก่อนวันอบรม น้อยกว่า 5 วันทำการ สวทช. จะคิดค่าปรับร้อยละ 50 ของราคาค่าลงทะเบียน
 
สมัครและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
นายบุญรักษ์ กาญจนวรวณิชย์
งานพัฒนากำลังคนเทคโนโลยีวัสดุ
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
โทรศัพท์ 0 2564 6500 ต่อ 4675 
E-mail : boonrkk@mtec.or.th

The post หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักโลหะภาคปฏิบัติ (วันที่ 15-16 ธันวาคม 2568) appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
คอนกรีตรักษ์โลก ก้าวใหม่สู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า https://www.mtec.or.th/stakeholders_perspective-tps-flyashblock/ Tue, 07 Oct 2025 00:47:37 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=40804 การจัดการเถ้าลอยและเถ้าหนักที่เกิดจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าเป็นประเด็นท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข แต่หากมีการวางแผนที่ดี พร้อมกับการส่งเสริมการใช้ซ้ำหรือการรีไซเคิลในภาคอุตสาหกรรม ก็จะเปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาส

The post คอนกรีตรักษ์โลก ก้าวใหม่สู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

คอนกรีตรักษ์โลก ก้าวใหม่สู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

การจัดการเถ้าลอยและเถ้าหนักที่เกิดจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าเป็นประเด็นท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข แต่หากมีการวางแผนที่ดี พร้อมกับการส่งเสริมการใช้ซ้ำหรือการรีไซเคิลในภาคอุตสาหกรรม ก็จะเปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาส เนื่องจากสามารถสร้างรายได้พร้อมกับลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาเดียวกัน

เถ้าลอยและเถ้าหนักเป็นวัสดุพลอยได้ที่มีศักยภาพในการนำกลับมาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง งานขนส่ง และการปรับปรุงสภาพดิน การใช้เถ้าลอยและเถ้าหนักยังช่วยลดการใช้วัสดุธรรมชาติและลดของเสียที่ต้องฝังกลบ

คอนกรีตบล็อกกลวงไม่รับน้ำหนักและคอนกรีตผสมเสร็จ เกิดจากแนวคิดและความมุ่งมั่นในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมของบริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด ใน SCGP บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ และได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมเพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีรีไซเคิลและอัปไซเคิล ภายใต้การกำกับดูแลของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม และ ดร.สิทธิศักดิ์ ประสานพันธ์ และคณะ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโครงการ

วัตถุดิบของคอนกรีตบล็อกกลวงไม่รับน้ำหนักและคอนกรีตผสมเสร็จประกอบด้วยปูนซีเมนต์ หินฝุ่น ทราย หิน เถ้าลอย และเถ้าหนัก เป้าหมายของงานวิจัยคือ การพัฒนาสูตรของการนำเถ้าลอยและเถ้าหนักเพื่อใช้เป็นองค์ประกอบในสัดส่วนที่มากกว่าเดิม และปรับปรุงสมบัติของวัสดุโดยที่ยังมีสมบัติด้านความแข็งแรงและด้านกายภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม หากมีการนำผลงานวิจัยไปใช้ ก็ย่อมช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ  

ทีมวิจัยของเอ็มเทคได้ร่วมกับตัวแทนของบริษัทฯ พัฒนาสูตรส่วนผสมคอนกรีตบล็อกกลวงไม่รับน้ำหนัก มีการแทนที่เถ้าหนักด้วยเถ้าลอยมากที่สุดในสัดส่วน 30% โดยมวล ซึ่งผ่านตามเกณฑ์และข้อกำหนดของ มอก. 58-2560 หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำหรับคอนกรีตบล็อกกลวงไม่รับน้ำหนัก

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาสูตรคอนกรีตผสมเสร็จที่มีค่ากำลังอัดดีและสามารถเพิ่มการใช้เถ้าลอยและเถ้าหนักในคอนกรีตผสมเสร็จได้ถึง 30% และ 35% ตามลำดับ ซึ่งผ่านตามเกณฑ์และข้อกำหนดของ มอก. 213-2560 หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมคอนกรีตผสมเสร็จ

ความสำเร็จของโครงการแสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมสามารถนำเถ้าลอยและเถ้าหนักมาใช้ทดแทนวัสดุธรรมชาติในกระบวนการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทั้งยังช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้จัดการทรัพยากรโดยพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ปัจจุบันบริษัทกำลังติดตั้งเครื่องจักรผลิตคอนกรีตบล็อกกลวงไม่รับน้ำหนักเพื่อผลิตและจำหน่าย

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th หรือ
คุณณัฐพงศ์ ณ ลำพูน
กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กพร.
โทรศัพท์ 0 2430 6842 ต่อ 4211
อีเมล: Nattapong_n@dpim.go.th

The post คอนกรีตรักษ์โลก ก้าวใหม่สู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง(NG) ของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง (วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568) https://www.mtec.or.th/analysis-of-high-pressure-die-casting-defects/ Fri, 05 Sep 2025 07:13:36 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=40265 หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง(NG) ของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง (วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568) หลักสูตรอบรมการวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง(NG)ของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง จัดโดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม วันที่ 10-12 พฤศจิกายน ... Read more

The post หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง(NG) ของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง (วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568) appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง(NG) ของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง (วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568)

หลักสูตรอบรม
การวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง(NG)
ของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง

จัดโดย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 9:00-16:00 น.
ณ ห้องM120 อาคารเอ็มเทค อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี

หลักการและเหตุผล
       กระบวนการหล่อความดันสูงที่มีประสิทธิภาพการผลิตที่ดีนั้น จะต้อง (1)ใช้เวลาในการเตรียมการเพื่อผลิตสั้นที่สุด(ออกแบบ/ผลิตแม่พิมพ์, การทดสอบการฉีด) และ (2)สามารถผลิตชิ้นงานหล่อได้อย่างต่อเนื่องและมีของเสียอยู่ภายในค่าขอบเขตที่กำหนดในกระบวนการผลิตต่อเนื่อง (Mass production)
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ในขั้นตอนการออกแบบกระบวนการผลิต [Process design, ครอบคลุมทั้งการออกแบบแม่พิมพ์และกำหนดค่าสภาวะในการผลิต] ผู้ออกแบบ จะต้องออกแบบและกำหนดค่าตัวแปรให้สอดคล้องกับคุณภาพและรูปร่างของชิ้นงานหล่อ ในขั้นตอนการผลิต ผู้ควบคุม/ติดตามการผลิต, ผู้ทำการผลิต จะต้องควบคุมตัวแปรกระบวนการผลิตให้อยู่ภายในขอบเขตค่าควบคุม ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตจำเป็นที่จะต้องทราบว่า (1) มีตัวแปรสำคัญของการออกแบบแม่พิมพ์และค่าสภาวะในการหล่ออะไรบ้างที่มีผลต่อคุณภาพชิ้นงาน (2) ตัวแปรแต่ละตัวมีผลกระทบหลักต่อคุณภาพชิ้นงานหล่อในด้านใดบ้างและมีผลกระทบข้างเคียงกับคุณภาพชิ้นงานหล่อในด้านอื่นๆใดบ้าง และ (3) หลักการกำหนดค่าตัวแปรให้สอดคล้องกับคุณภาพชิ้นงานที่ต้องการ โดยหลักสูตรอบรมนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
     1.เพื่อสร้างความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรในกระบวนการหล่อความดันสูงกับคุณภาพชิ้นงานหล่อ
     2.เพื่อพัฒนาทักษะในการกำหนดค่าสภาวะในการหล่อให้สอดคล้องกับคุณภาพของชิ้นงานหล่อที่ต้องการในขั้นตอนการทดสอบการฉีด (Casting Trial)
     3.เพื่อพัฒนาทักษะการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง(Root cause)ของปัญหาข้อบกพร่องและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสาเหตุหลักของปัญหาที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาข้อบกพร่องอื่นทดแทนปัญหาเดิม
     4.เพื่อแสดงแนวทางในการกำหนดสภาวะการผลิตที่เหมาะสม (Process Optimization) สำหรับกระบวนการหล่อความดันสูงให้สอดคล้องกับ คุณภาพ ต้นทุนและเวลาส่งมอบชิ้นงานหล่อ 
 
กลุ่มเป้าหมาย
   1.ผู้ทำงาน/มีประสบการณ์การทำงานในกระบวนการหล่อความดันสูงไม่ต่ำกว่า 1 ปีหรือมีพื้นฐานทักษะ/ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวแปรในกระบวนการหล่อความดันสูง 
   2.ผู้มีประสบการณ์ในการทดสอบการฉีด (Trial) / การควบคุมกระบวนการฉีด หรือแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น / การควบคุมคุณภาพชิ้นงาน ในกระบวนการหล่อความดันสูงขั้นพื้นฐาน
   3.มีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรมจำลองการหล่อ
 
รายละเอียดเนื้อหาการบรรยาย
   เนื้อหาของการอบรมจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักประกอบด้วย
  • ความสัมพันธ์รหว่างตัวแปรในกระบวนการหล่อความดันสูงที่มีผลต่อ คุณภาพ / ต้นทุน / และเวลาในการผลิต
  • แนวทางการปฎิบัติการทดสอบการฉีด (Casting Trial ) 
  • หลักปฎิบัติในการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาข้อบกพร่องและกำหนดแนวทางการแก้ไขที่สอดคล้องกับสาเหตุหลักของปัญหาข้อบกพร่อง
  • แนวทางการกำหนดสภาวะการผลิตที่เหมาะสม (Process Optimization) สำหรับกระบวนการหล่อความดันสูงให้สอดคล้องกับ คุณภาพ ต้นทุนและเวลาส่งมอบชิ้นงานหล่อ 
   โดยแต่ละส่วนมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
   1.ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรในกระบวนการหล่อความดัสูงที่มีผลต่อ คุณภาพ / ต้นทุน / และ เวลาในการผลิต
    เนื้อหาหลักของการบรรยายในส่วนแรกนี้มุ่งสร้างความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชิ้นงานหล่อกับตัวแปรของแม่พิมพ์และค่าสภาวะการหล่อ โดยทักษะและความรู้ในส่วนนี้จะนำไปประยุกต์ใช้ในการบรรยายในส่วนที่ 2-4 โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อย่อยดังต่อไปนี้ 
     1.1.คุณลักษณะเฉพาะของกระบวนการหล่อความดันสูง
     1.2.ระดับคุณภาพของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง
     1.3.พฤติกรรมทางกายภาพในกระบวนการหล่อที่มีผลต่อคุณภาพชิ้นงานหล่อ
     1.4.ตัวแปรในกระบวนการหล่อความดันสูง
     1.5.ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชิ้นงานและตัวแปรในกระบวนการหล่อความดันสูง
     1.6. ทักษะการใช้ผลการคำนวณจากโปรแกรมจำลองการหล่อในการ
     1.6.1.อธิบายพฤติกรรมทางกายภาพในกระบวนการหล่อที่มีผลต่อคุณภาพชิ้นงานหล่อ
     1.6.2.ประเมินอิทธิพลของตัวแปรที่มีต่อคุณภาพชิ้นงานหล่อ
 
   2.แนวทางการปฎิบัติการทดสอบการฉีด (Casting Trial )
    เพื่อลดเวลาในการทดสอบการฉีดและทำให้สามารถนำแม่พิมพ์เข้าสู่การผลิตได้เร็วที่สุด ผู้ที่ทำหน้าที่ทดสอบการฉีดจะต้องทำการวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูลการทดสอบการฉีดอย่างเป็นระบบ ข้อมูลการทดสอบการฉีดที่ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบนี้ สามารถนำไปใช้ใน (1)การวิเคราะห์สาเหตุและแก้ไขปัญหา NG (2)กำหนดค่าขอบเขตการควบคุมของตัวแปรในกระบวนการหล่อ และ (3) ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการออกแบบชิ้นงานที่มีรูปร่างและหรือคุณภาพที่คล้ายคลึงกัน การบรรยายในส่วยนี้จะครอบคลุมรายละเอียดดังต่อไปนี้
     2.1.การวางแผนการ Trial  และ จุดประสงค์ของการ Trial แต่ละครั้ง
     2.2.แนวคิดในการออกแบบแม่พิมพ์ (Die design concept) โดยอ้างอิงจากคุณภาพชิ้นงานหล่อที่ต้องการ และการกำหนดค่าตัวแปรในการออกแบบแม่พิมพ์และตัวแปรสภาวะการฉีด
     2.2.1.คุณภาพชิ้นงานหล่อกับแนวคิดการออกแบบกระบวนการฉีดและแม่พิมพ์
     2.2.2.การกำหนดค่าเริ่มต้นสภาวะการฉีดในขั้นตอนการออกแบบแม่พิมพ์
     2.3.การวางแผนการทดสอบการฉีด และการเก็บข้อมูลการทดสอบการฉีด
     2.3.1.หลักการกำหนดค่า Condition ในการฉีดโดยอ้างอิงจากคุณภาพชิ้นงานหล่อ
     2.3.2.การคำนวณหาค่าสภาวะในการฉีด
     2.4.การแบ่งปันข้อมูลการทดสอบการฉีดระหว่างผู้ทดสอบการฉีด ผู้ออกแบบแม่พิมพ์ และ ผู้ทำการผลิต/ผู้ควบคุมกระบวนการผลิตต่อเนื่อง(Mass Production)
     2.4.1.การบันทึกข้อมูลการทดสอบการฉีด
     2.4.2.การประเมินผลการทดสอบการฉีดจริงเปรียบเทียบกับค่าเริ่มต้นสภาวะการฉีดในขั้นตอนการออกแบบแม่พิมพ์
 
   3.การวิเคราะห์สาเหตุปัญหาข้อบกพร่องและกำหนดแนวทางการแก้ไขที่สอดคล้องกับสาเหตุหลักของปัญหาข้อบกพร่อง
    การบรรยายในส่วนนี้จะมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์หาสาเหตุการเกิดข้อบกพร่องและการกำหนดแนวทางการแก้ไข โดยมีรายละเอียดแบ่งออกเป็น  7 ขั้นตอน  
   3.1.ข้อบกพร่องของชิ้นงานหล่อที่พบในกระบวนการหล่อความดันสูง
   3.1.1.ชนิดข้อบกพร่องในกระบวนการหล่อความดันสูงและ กลไกการเกิดปัญหาข้อบกพร่องแต่ละชนิด
   3.1.2.การบ่งชี้ชนิดของข้อบกพร่องและ เทคนิคการตรวจสอบเพื่อยืนยัน
   3.1.3.หลักการพื้นฐานในการแก้ไขปัญหา NG แต่ละชนิด
   3.2.การเก็บรวบรวมข้อมูลปัญหา NG  การนำเสนอและรายงานปัญหาข้อบกพร่อง หรือ NG ของชิ้นงานที่ต้องการทำการแก้ไข
   3.3.การตั้งสมมุติฐานสาเหตุของปัญหาข้อบกพร่องจากลักษณะทางกายภาพของ NG ที่ตรวจพบบนชิ้นงาน
   3.4.การใช้ Visual Inspection/ ผลคำนวณจากโปรแกรมจำลองการหล่อ/ การทดสอบทางโลหะวิทยา เพื่อตรวจสอบสมมุติฐานของสาเหตุของปัญหาข้อบกพร่อง
   3.5.การกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องที่เป็นไปได้ 
   3.6.การทดสอบ / การประเมิน แนวทางการแก้ไขปัญหาโดยใช้ผลคำนวณจากโปแกรมจำลองการหล่อ
   3.7.การทดสอบและการประเมินผลการแก้ไขปัญหา
 
   4.แนวทางการกำหนดสภาวะการผลิตที่เหมาะสม (Process Optimization) สำหรับกระบวนการหล่อความดันสูงให้สอดคล้องกับ คุณภาพ ต้นทุนและเวลาส่งมอบชิ้นงานหล่อ
   นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องของชิ้นงานหล่อแล้ว การวิเคราะห์อิทธิพลของตัวแปรในกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้รู้ถึงขอบเขตของค่าตัวแปรในกระบวนการผลิตที่ยอมรับได้ และนำมากำหนดเป็นสภาวะการผลิตที่เหมาะสมสำหรับชิ้นงานแต่ละชิ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการ (1) ลดต้นทุนในการผลิต (2) การควบคุมกระบวนการผลิตให้มีความเสถียรมากขึ้น หรือ (3) ลดเวลาในการออกแบบกระบวนการผลิตและหรือแม่พิมพ์ 
   4.1.แนวทางการกำหนดสภาวะการผลิตที่เหมาะสมของชิ้นงาน
   4.2.การประเมินความเป็นไปได้ในการลดต้นทุนการผลิตโดยพิจารณาจากค่าขอบเขตของตัวแปรในกระบวนการผลิต
   4.3.แนวคิดการออกแบบแม่พิมพ์ (Die Design concept) สำหรับชิ้นงานหล่อประเภทเดียวกันที่มีรูปร่างและคุณภาพคล้ายคลึงกัน
   4.4.การเพิ่ม Yield  ในกระบวนการผลิต
 
กำหนดการ
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 (วิทยากร: ดร.พงษ์ศักดิ์ ดุลยประพันธ์ / ผู้ช่วยวิทยากร: คุณเอกชัย กิติแก้วทวีเสริฐ)
8.30 น. – 9.00 น.    ลงทะเบียน
9.00 น. – 10.45 น.   ส่วนที่ 1: หัวข้อ 1.1 – 1.2
10.45 น. – 12.00 น.  ส่วนที่ 1: หัวข้อ 1.3 – 1.4
12.00 น. – 13.00 น.  พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. – 14.45 น.  ส่วนที่ 1: หัวข้อ 1.4 -1.5
14.45 น. – 16.00 น.  ส่วนที่ 1: หัวข้อ1.5 -1.6
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 (วิทยากร: คุณเอกชัย กิติแก้วทวีเสริฐ)
8.30 น. – 9.00 น.    ลงทะเบียน
9.00 น. – 10.45 น.   ส่วนที่ 2: หัวข้อ 2.1 -2.2
10.45 น. – 12.00 น.  ส่วนที่ 2: หัวข้อ 2.2 -2.3
12.00 น. – 13.00 น.  พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. – 14.45 น.  ส่วนที่ 2: หัวข้อ 2.3-2.4
14.45 น. – 16.00 น.  ส่วนที่ 3: หัวข้อ 3.1 -3.2
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 (วิทยากร: ดร.พงษ์ศักดิ์ ดุลยประพันธ์ / ผู้ช่วยวิทยากร: คุณเอกชัย กิติแก้วทวีเสริฐ)
8.30 น. – 9.00 น.    ลงทะเบียน
9.00 น. – 10.45 น.   ส่วนที่ 3: หัวข้อ 3.3 -3.5
10.45 น. – 12.00 น.  ส่วนที่ 3: หัวข้อ3.5 -3.7
12.00 น. – 13.00 น.  พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. – 14.45 น.  ส่วนที่ 4: หัวข้อ 4.1 -4.2
14.45 น. – 16.00 น.  ส่วนที่ 4: หัวข้อ 4.3-4.4
 

วิทยากร

ดร.พงษ์ศักดิ์ ดุลยประพันธ์
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกระบวนการหล่อความดันสูง
อดีตนักวิจัยด้านเทคโนโลยีการหล่อโลหะ
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ

คุณเอกชัย กิติแก้วทวีเสริฐ
วิศวกร
ทีมวิจัยเทคโนโลยีการผลิตอะลูมิเนียม
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ

ค่าลงทะเบียน
ข้าราชการหรือพนักงานหน่วยงานรัฐ ราคา 9,500 บาท/ท่าน (ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
บุคคลทั่วไป ราคา 10,165 บาท/ท่าน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
**รับสมัครจำนวน 20 ท่าน เท่านั้น**

หมายเหตุ
– อัตราค่าลงทะเบียนรวมค่าอาหารว่าง อาหารกลางวัน เอกสารประกอบการอบรม
– สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐ จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องหักภาษี 3%

การลงทะเบียน
ลงทะเบียนผ่าน Google form >>> https://forms.gle/6EC1w2hD1bcwrbYS6

การชำระค่าลงทะเบียน
โอนเงินเข้าบัญชี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 080-0-00001-0
สาขาอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
กรุณาส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่อีเมล boonrkk@mtec.or.th

การยกเลิกเข้าร่วมหลักสูตรอบรม
   – กรณีท่านติดภารกิจ สามารถแจ้งยกเลิกล่วงหน้าก่อนวันอบรม “อย่างน้อย 5 วันทำการ (ไม่รวมวันเสาร์ – อาทิตย์)” สวทช. จะไม่คิดค่าปรับจากการดำเนินการ
   – กรณีท่านติดภารกิจ และแจ้งยกเลิกล่วงหน้าก่อนวันอบรม น้อยกว่า 5 วันทำการ สวทช. จะคิดค่าปรับร้อยละ 50 ของราคาค่าลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
งานพัฒนากำลังคนเทคโนโลยีวัสดุ (คุณบุญรักษ์ กาญจนวรวณิชย์)
โทรศัพท์ 025646500 ต่อ 4675
E-mail : boonrkk@mtec.or.th

The post หลักสูตรอบรม การวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง(NG) ของชิ้นงานในกระบวนการหล่อความดันสูง (วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568) appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
หลักสูตรอบรม ความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุพร้อมกรณีศึกษา (วันที่ 30-31 ตุลาคม 2568) https://www.mtec.or.th/general-training-courses-94066-3/ Thu, 21 Aug 2025 05:09:50 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=39870 หลักสูตรอบรม ความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุพร้อมกรณีศึกษา (วันที่ 10-11 ตุลาคม 2567) หลักสูตรความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุพร้อมกรณีศึกษา(Materials Science and Engineering Knowledge with Case Studies) จัดโดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกระทรวงการอุดมศึกษา ... Read more

The post หลักสูตรอบรม ความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุพร้อมกรณีศึกษา (วันที่ 30-31 ตุลาคม 2568) appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

หลักสูตรอบรม ความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุพร้อมกรณีศึกษา (วันที่ 10-11 ตุลาคม 2567)

หลักสูตร
ความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุพร้อมกรณีศึกษา
(Materials Science and Engineering Knowledge with Case Studies)

จัดโดย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

วันที่ 30-31 ตุลาคม 2568 เวลา 9:00-16:00 น.
จัดอบรม hybrid คู่ขนาน 2 รูปแบบ
รูปแบบที่1 อบรม onsite ณ ห้องM120 อาคารเอ็มเทค อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
รูปแบบที่2 อบรมออนไลน์ผ่านโปรแกรม Cisco WebEx Meeting

ท่านเคยประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่?
– รู้สึกขาดความรู้พื้นฐานทางวัสดุ แต่ต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับวัสดุ
– เคยเรียนวิชาทางวัสดุมาแล้ว แต่ขาดประสบการณ์การนำไปประยุกต์ใช้
– มีความรู้พื้นฐานและประสบการณ์ในงานของตัวเอง แต่ต้องการมุมมองที่กว้างขึ้นในสาขางานอื่นๆ

หลักสูตรนี้ให้ความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุ โดยมีการยกตัวอย่างงานจริงจากประสบการณ์ของวิทยากรมาประกอบ เนื้อหาหลักประกอบด้วย
– เทคนิคการทดสอบสมบัติของวัสดุ (Techniques for Materials Properties Testing)
– เทคนิคการวิเคราะห์โครงสร้างของวัสดุ (Techniques for Microstructural Characterization)
– การกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพของวัสดุ (Corrosion and Degradation of Materials)
– การแตกร้าวและความเสียหาย (Fracture and Failure)
– ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของวัสดุ (Relationship Between Microstructure and Properties of Materials)
– โลหะ (Metals)
– เซรามิกส์ (Ceramics)
– พอลิเมอร์ (Polymers)
– วัสดุคอมโพสิท (Composites)

รายละเอียด
วันที่ 30 ตุลาคม 2568
 8:30-9:00 น.     เริ่มลงทะเบียน
 9:00-10:30 น.    บทนำเกี่ยวกับวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุ (Introduction to Materials Sci. and Eng.)
                             โครงสร้างผลึกของแข็ง (Structure of Crystalline Solids)
10:30-10:45 น.    พักการบรรยาย 15 นาที
10:45-12:00 น.    สมบัติเชิงกลของวัสดุ (Mechanical Properties of Materials)
                                – การทดสอบแรงดึง (Tensile Testing)
                                – ความเค้นและความเครียด (Stress and Strain)
                                – กฎของฮุกและมอดูลัสของยัง (Hooke’s Law and Young’s Modulus)
                                – การทดสอบความแข็ง (Hardness Testing)
12:00-13:00 น.    พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:00-14:30 น.    การแตกร้าวและความเสียหาย (Fracture and Failure)
                             ความล้า (Fatigue)
                             แผนภูมิเฟส (Phase Diagrams)
14:30-14:45 น.    พักการบรรยาย 15 นาที
14:45-16:00 น.    โลหะ (Metals)
                            การกัดกร่อนของโลหะ (Corrosion of Metals)

วันที่ 31 ตุลาคม 2568
 9:00-10:30 น.   ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของวัสดุ (Structure-property relationship)
                                – เซรามิก (Traditional and Advanced ceramics) / Inorganic materials
                                – พอลิเมอร์ (Polymers)
                                – คอมโพสิท (Composites)
10:30-10:45 น.  พักการบรรยาย 15 นาที
10:45-12:00 น.  การเสื่อมสภาพ/ความเสียหาย/ข้อบกพร่อง/การปนเปื้อนในวัสดุ (Degradation/failures/defects/contaminates in materials)
                               – รูปแบบ/ลักษณะความเสียหาย (ตามประเภทวัสดุ)
                               – แนวทางการวิเคราะห์ความเสียหาย
12:00-13:00 น.  พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:00-14:30 น.  เทคนิคการวิเคราะห์วัสดุ (Materials characterization techniques)
                                – Physical Property Analysis (density, particle size distribution, surface area, pore size)
                                – Morphological Study (OM, SEM, TEM, X-ray)
                                – Chemical Composition Analysis (EDS, XRF, FTIR)
                                – Crystallographic and Phase Study (X-ray/XRD)
                                – Thermal Analysis (DSC, TGA)
14:30-14:45 น.   พักการบรรยาย 15 นาที
14:45-16:00 น.   กรณีศึกษา (Case studies)
                                – แนวทางการตรวจสอบความเสียหาย/ข้อบกพร่อง/สิ่งเจือปนในวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมต่างๆ (เช่น electronics, chemicals, composites, fabrication/assembly)
                                – ยกตัวอย่างความเสียหายของวัสดุ วิธีการวิเคราะห์ทดสอบและการแปลผล
                             สรุปเนื้อหาการอบรมและตอบคำถาม (Course wrap-up and Q&A)

วิทยากร

ดร.สมบูรณ์ โอตรวรรณะ
นักวิจัยทีมวิจัยคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณทางวิศวกรรม

ดร.ศรชล โยริยะ
นักวิจัยทีมวิจัยซีเมนต์และวัสดุคอมพอสิตเพื่อความยั่งยืน

ค่าลงทะเบียน
ข้าราชการหรือพนักงานหน่วยงานรัฐ ราคา 7,000 บาท/ท่าน (ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
บุคคลทั่วไป ราคา 7,490 บาท/ท่าน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
**On-site รับสมัครจำนวน 20 ท่าน เท่านั้น**

หมายเหตุ
– อัตราค่าลงทะเบียนรวมค่าอาหารว่าง อาหารกลางวัน เอกสารประกอบการอบรม
– สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐ จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องหักภาษี 3%

การลงทะเบียน
ลงทะเบียนผ่าน Google form >>> https://forms.gle/camvJ28mPBZ9RABG8

การชำระค่าลงทะเบียน
โอนเงินเข้าบัญชี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 080-0-00001-0
สาขาอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
กรุณาส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่อีเมล boonrkk@mtec.or.th

!!! การยกเลิกเข้าร่วมหลักสูตรอบรม !!!
   – กรณีท่านติดภารกิจ สามารถแจ้งยกเลิกล่วงหน้าก่อนวันอบรม “อย่างน้อย 5 วันทำการ (ไม่รวมวันเสาร์ – อาทิตย์)” สวทช. จะไม่คิดค่าปรับจากการดำเนินการ
   – กรณีท่านติดภารกิจ และแจ้งยกเลิกล่วงหน้าก่อนวันอบรม น้อยกว่า 5 วันทำการ สวทช. จะคิดค่าปรับร้อยละ 50 ของราคาค่าลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
งานพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีวัสดุเพื่ออุตสาหกรรม (คุณบุญรักษ์ กาญจนวรวณิชย์)
โทรศัพท์ 025646500ต่อ 4675
E-mail : boonrkk@mtec.or.th

The post หลักสูตรอบรม ความรู้พื้นฐานด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุพร้อมกรณีศึกษา (วันที่ 30-31 ตุลาคม 2568) appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
การส่งเสริมเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรมอาหารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี https://www.mtec.or.th/stakeholders_perspective-tps-auromex/ Thu, 21 Aug 2025 04:24:49 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=39860 ปัจจุบันการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น อาหารจากโปรตีนพืช ได้รับความนิยมมากขึ้น อุตสาหกรรมอาหารได้ให้ความสำคัญกับการวิจัย พัฒนา และเทคโนโลยี โดยมีการเติบโตต่อเนื่องควบคู่ไปกับเทรนด์รักสุขภาพ ดูแลสิ่งแวดล้อม

The post การส่งเสริมเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรมอาหารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

การส่งเสริมเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรมอาหารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

ปัจจุบันการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น อาหารจากโปรตีนพืช ได้รับความนิยมมากขึ้น  อุตสาหกรรมอาหารได้ให้ความสำคัญกับการวิจัย พัฒนา และเทคโนโลยี โดยมีการเติบโตต่อเนื่องควบคู่ไปกับเทรนด์รักสุขภาพ ดูแลสิ่งแวดล้อม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอาหาร ทัศนคติของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมทั้งความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของมนุษย์ในภาพรวม

การบริโภคโปรตีนจากพืชเพื่อทดแทนโปรตีนจากสัตว์เป็นกลไกหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีมวิจัยวัสดุศาสตร์อาหาร ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เอ็มเทค สวทช. มุ่งพัฒนาอาหารที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน โดยใช้ความรู้ด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ในการออกแบบและพัฒนาโครงสร้างของอาหาร

ผลิตภัณฑ์หนึ่งจากฝีมือของทีมวิจัยฯ คือ เนื้อไก่แบบผงสำเร็จรูป (premix) ปราศจากกลูเตนซึ่งผลิตจากโปรตีนพืช ผลิตภัณฑ์นี้มีเนื้อสัมผัสและรสชาติใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง  ทั้งนี้บริษัท ออโรเม็กซ์ จำกัด ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีและต่อยอดสู่การเข้าร่วมโครงการ “ยกระดับนวัตกรรมฐานวัสดุสู่ตลาดชั้นนำ เพื่อการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” โดยได้รับทุนจาก บพข. แผนงานวิจัย แผนงานพัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรม (Innovation driven enterprises: IDEs) ขนาดใหญ่  

บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยนวัตกรรม และมี Business Unit สำคัญเกี่ยวกับการผลิตและจัดจำหน่ายวัตถุเจือปนอาหารและวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร บริษัทฯ มุ่งเน้นคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตอาหารในประเทศและต่างประเทศ อันเป็นที่มาของการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากเอ็มเทค

ผลิตภัณฑ์ผงปรับปรุงเนื้อสัมผัสข้าว ช่วยลดการสูญเสียน้ำ (texture Improver) ที่เติมในขั้นตอนการหุงข้าว ทำให้ข้าวกล่องหรืออาหารพร้อมรับประทานซึ่งเมื่ออุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟแล้วมีคุณภาพเนื้อสัมผัสนุ่มชุ่มชื้นเป็นธรรมชาติ น่ารับประทาน

ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ร่วมกับทีมวิจัยวัสดุศาสตร์อาหาร เอ็มเทค เป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนบริษัทฯ เพิ่มนวัตกรรมใหม่ ทั้งด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมตลาด และนวัตกรรมองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน และเพิ่มยอดขายแบบก้าวกระโดด  ทีมงานของเอ็มเทคยังสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สารปรับปรุงเนื้อสัมผัส เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบของสังคมไทยและอีกหลายประเทศในเอเชีย

โครงการ “ยกระดับนวัตกรรมฐานวัสดุสู่ตลาดชั้นนำ เพื่อการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” มีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำแผนกลยุทธ์ธุรกิจและแผนปฏิบัติการ และการกำหนดทิศทางเป้าหมายใน 5 ปี ข้างหน้า รวมถึงการให้คำปรึกษาวิเคราะห์ทดสอบผลิตภัณฑ์สารปรับปรุงเนื้อสัมผัส  การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อรองรับลูกค้าทั้งแบบ B2B (Business to Business) และแบบ B2C (Business to Consumer) ภายใต้การดำเนินงานของโครงการในปี 2 เพื่อสนับสนุนให้บริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เข้าสู่ธุรกิจพันล้านด้วยนวัตกรรม

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th

The post การส่งเสริมเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรมอาหารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
ยกระดับอุตสาหกรรมไม้และเฟอร์นิเจอร์ไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน https://www.mtec.or.th/stakeholders_perspective-tps-garden/ Wed, 13 Aug 2025 07:17:07 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=39684 ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การยกระดับความสามารถของภาคเอกชนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงเปรียบเสมือนการติดอาวุธ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ และมีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก

The post ยกระดับอุตสาหกรรมไม้และเฟอร์นิเจอร์ไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

ยกระดับอุตสาหกรรมไม้และเฟอร์นิเจอร์ไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การยกระดับความสามารถของภาคเอกชนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงเปรียบเสมือนการติดอาวุธ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ และมีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก นำมาซึ่งการเติบโตของธุรกิจแบบก้าวกระโดดอย่างยั่งยืน

ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ได้รับทุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ในการดำเนินแผนงานพัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรม (Innovation driven enterprises: IDEs) ผ่านกลไกความร่วมมือและร่วมพัฒนากับองค์กรหรือบุคคลในเครือข่ายการพัฒนานวัตกรรม 

บริษัท ทีพีเอส การ์เด้น เฟอร์นิเจอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไม้ซุง ไม้สัก ไม้สักแปรรูป เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ แบบครบวงจร ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เป็นบริษัทหนึ่งที่เข้าร่วมในแผนงานนี้   

บริษัทฯ ต้องการเพิ่มยอดขายในประเทศ พัฒนาศักยภาพของบุคลากร สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างยาวนาน สร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มการปลูกป่า เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอนาคต และก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโซลูชันงานไม้ เฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง และการตกแต่งภายในแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์หลักในการรักษาตลาดส่งออกไม้แปรรูป เพิ่มรายได้จากการให้บริการโซลูชันงานไม้ และเฟอร์นิเจอร์ไม้ครบวงจรในประเทศ

ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอ็มเทค ได้มีส่วนในการทำแผนธุรกิจของบริษัทฯ วิเคราะห์ประเด็นที่ควรเสริมศักยภาพ และเสาะหาที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกในมิติต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดไปได้

การส่งเสริมด้านนวัตกรรมได้มุ่งเน้นในหลายมิติ ได้แก่ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ได้แนะนำทีมวิจัยวิศวกรรมไม้เพื่อความยั่งยืน เอ็มเทค เพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การเลือกเครื่องจักร การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าไม้สัก และการทดสอบสมบัติที่สำคัญ ซึ่งจะสามารถผลักดันให้เกิดการสร้างตลาดใหม่และรายได้ให้กับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง

ด้านนวัตกรรมการตลาด ได้แนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ การจัดการโครงสร้างและความสัมพันธ์ของแบรนด์ทั้งหมดภายในบริษัทให้เป็นระบบและสอดคล้องกัน

ด้านนวัตกรรมองค์กร มีการจัดอบรมพัฒนาทักษะการขายแบบที่ปรึกษา และด้านนวัตกรรมกระบวนการ ได้ออกแบบขั้นตอนและกระบวนการทางธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เป็นมาตรฐาน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะนำระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning, ERP) มาใช้ และการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนปลูกป่าสักและโมเดลแพลตฟอร์มปลูกป่าผสมผสานเชิงเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังเกิดความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเอ็มเทค ภายใต้โครงการการจัดทำมาตรการรองรับการกีดกันทางการค้าด้วยข้อกฎหมายด้านการนำเข้าสินค้าที่มีส่วนในการตัดไม้ทำลายป่า EUDR (EU Deforestation Regulation) ระดับประเทศ เพื่อประโยชน์ในภาพรวมของอุตสาหกรรมไม้

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th

The post ยกระดับอุตสาหกรรมไม้และเฟอร์นิเจอร์ไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
นวัตกรรม ‘รถพยาบาลรุ่นใหม่’ จากชิ้นส่วนประกอบสำเร็จรูป https://www.mtec.or.th/stakeholders_perspective-suprera/ Tue, 05 Aug 2025 01:03:04 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=39616 รถตู้พยาบาลเป็นรถเฉพาะกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อขนย้ายผู้ป่วยจากจุดที่ต้องการไปยังโรงพยาบาล โดยบุคลากรทางการแพทย์สามารถทำหัตถการฉุกเฉินบนรถเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยในระหว่างการนำส่งได้

The post นวัตกรรม ‘รถพยาบาลรุ่นใหม่’ จากชิ้นส่วนประกอบสำเร็จรูป appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

นวัตกรรม ‘รถพยาบาลรุ่นใหม่’ จากชิ้นส่วนประกอบสำเร็จรูป

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

รถตู้พยาบาลเป็นรถเฉพาะกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อขนย้ายผู้ป่วยจากจุดที่ต้องการไปยังโรงพยาบาล โดยบุคลากรทางการแพทย์สามารถทำหัตถการฉุกเฉินบนรถเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยในระหว่างการนำส่งได้

อย่างไรก็ดี โครงสร้างห้องโดยสารของรถตู้พยาบาลที่ใช้กันอยู่แต่เดิมได้รับการดัดแปลงจากรถตู้พาณิชย์โดยผู้ผลิตรถเฉพาะทาง โดยยังมีจุดอ่อนหรือข้อจำกัดในด้านต่างๆ ไม่ว่าเทคโนโลยี ต้นทุนการผลิต รวมทั้งการที่ยังไม่มีเกณฑ์ควบคุมความปลอดภัยที่ชัดเจน

ด้วยเหตุนี้ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. จึงร่วมกับบริษัท สุพรีร่า อินโนเวชั่น จำกัด บริษัทสตาร์ทอัพ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ออกแบบสร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ด้วยฝีมือคนไทย

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการให้กลายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม ดำเนินการภายใต้โครงการรับจ้างวิจัยของเอ็มเทคร่วมกับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ “ยกระดับนวัตกรรมฐานวัสดุสู่ตลาดชั้นนำ เพื่อการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” โดยได้รับทุนจาก บพข. แผนงานวิจัย แผนงานพัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรม (Innovation Driven Enterprises: IDEs) ขนาดใหญ่

การดำเนินงานได้ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านความสามารถในกระบวนการผลิต ทีมนักวิจัยของกลุ่มวิจัยการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการคำนวณและฝ่ายพัฒนาธุรกิจได้ร่วมกันผลักดันการวิจัยและพัฒนาการขึ้นรูปรถพยาบาลรุ่นใหม่ด้วยนวัตกรรมการออกแบบชิ้นส่วนสำเร็จรูป (prefabrication design) เสริมกับการออกแบบที่ใช้หลักที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ (Human-Centered Design: HCD) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่คนไข้และบุคลากรทางการแพทย์

โครงการได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ พัฒนาผลิตภัณฑ์รถรุ่นใหม่ (product innovation) และ กระบวนการผลิตใหม่ (process innovation) ซึ่งช่วยลดเวลา ลดต้นทุน และสร้างแบรนด์ให้เกิดการรับรู้ในตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ โครงการยังจัดอบรมความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่องค์กรนวัตกรรมของบริษัท และช่วยสนับสนุนยื่นจดทรัพย์สินทางปัญญากระบวนการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดส่งออก

โครงการประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เนื่องจากช่วยลดต้นทุนการผลิตรถพยาบาลได้ 20% จากการลดจำนวนคนงานในการผลิต และลดระยะเวลาการผลิตลง 43% จาก 7 วัน เหลือ 4 วัน ต่อคัน ทำให้กำลังการผลิตมากขึ้น และมีเป้าหมายเข้าสู่ตลาด Basic Life Support (BLS) ซึ่งมีปริมาณความต้องการใช้ที่สูงกว่า อีกทั้งยังสามารถส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการใช้รถพยาบาลที่มีคุณภาพและปลอดภัย

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังสนับสนุนการขยายบริการจากผู้ผลิตไปสู่ผู้ให้บริการ “Smart Tele-medicine Platform” ตาม Vision ขององค์กรที่ว่า “เราจะเป็นผู้นำในธุรกิจบริการจัดส่งและดูแลสุขภาพผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้สูงวัย”

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th

The post นวัตกรรม ‘รถพยาบาลรุ่นใหม่’ จากชิ้นส่วนประกอบสำเร็จรูป appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
สัมมนาหัวข้อเรื่อง รู้ทันความเสียหายของท่อไอน้ำในโรงไฟฟ้าชีวมวล การตรวจสอบและแนวทางการป้องกัน https://www.mtec.or.th/general-training-courses-93329-2-2-2-2/ Thu, 31 Jul 2025 10:37:59 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=39360 รู้ทันความเสียหายของท่อไอน้ำในโรงไฟฟ้าชีวมวล การตรวจสอบและแนวทางการป้องกัน แจ้งรายชื่อเข้าสัมมนาโครงการรู้ทันความเสียหายของท่อไอน้ำในโรงไฟฟ้าชีวมวล การตรวจสอบและแนวทางการป้องกัน (ฟรี!!!..ไม่มีค่าใช้จ่าย)   จัดโดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รอบที่ 1 ณ  โรงแรม เรนทรี เขาใหญ่จังหวัดนครราชสีมา (รายชื่อรุ่นที่1 คลิกที่นี่)วันพฤหัสบดีที่ ... Read more

The post สัมมนาหัวข้อเรื่อง รู้ทันความเสียหายของท่อไอน้ำในโรงไฟฟ้าชีวมวล การตรวจสอบและแนวทางการป้องกัน appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

รู้ทันความเสียหายของท่อไอน้ำในโรงไฟฟ้าชีวมวล การตรวจสอบและแนวทางการป้องกัน

แจ้งรายชื่อเข้าสัมมนาโครงการ
รู้ทันความเสียหายของท่อไอน้ำในโรงไฟฟ้าชีวมวล การตรวจสอบและแนวทางการป้องกัน (ฟรี!!!..ไม่มีค่าใช้จ่าย) 

 จัดโดย

ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

รอบที่ 1 ณ  โรงแรม เรนทรี เขาใหญ่จังหวัดนครราชสีมา (รายชื่อรุ่นที่1 คลิกที่นี่)
วันพฤหัสบดีที่ 24 และวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568

รอบที่ 2 ณ Grand Ballroom โรงแรม 42ซี เดอะชิค โฮเทล จังหวัดนครสวรรค์ (รายชื่อรุ่นที่2 คลิกที่นี่) 
สามารถรับได้อีก ไม่เกิน 10  ท่าน (สมัครก่อนวันที่ 8 สค.นี้) 

วันพฤหัสบดีที่ 21 และวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568
ติดต่อที่พักราคาพิเศษได้ที่คุณหนึ่ง โทร 094-8963889 (ราคา 1,200 บ./คืน(ทั้งคู่/เดี่ยว))

รอบที่ 3 ณ ห้องลีลาวดี โรงแรม รอยัล ริเวอร์แคว รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดกาญจนบุรี (รายชื่อรุ่นที่3 คลิกที่นี่)
วันพฤหัสบดีที่ 4 และวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568
ติดต่อที่พักราคาพิเศษได้ที่คุณอ้อ โทร 086-3134273 (ราคา 1,600 บ./คืน(ทั้งคู่/เดี่ยว))

รอบที่ 4 ณ Auditorium บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย(สวทช.)จังหวัดปทุมธานี (ระบบไฮบริด)
(รายชื่อรุ่นที่4_On-site คลิ๊กที่นี่) 
วันพฤหัสบดีที่ 18 และวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568
สนใจติดต่อที่พักบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร โทร: 02-529-7100 กด 77000 หรือ 77997

(รายชื่อรุ่นที่4_On-line คลิ๊กที่นี่) 
สำหรับท่านที่ลงทะเบียนออนไลน์ รบกวนท่านลงทะเบียนอีกครั้งที่ลิงก์นี้
ลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่นี่ https://www.nstda.or.th/r/Q9nc7

หมายเหตุ..ทางเอ็มเทคได้ประสานงานขอราคาห้องพักจาก โรงแรมในราคาพิเศษไว้ หากท่านสนใจพัก กรุณาติดไปตามเบอร์ที่แจ้งไว้  หรือจนกว่าจะเต็ม


หมายเหตุ
  • แจ้งยืนยันการเข้าร่วม : สำหรับผู้ที่มีรายชื่อใน รุ่นที่ 2 – รุ่นที่ 4
    กรุณาตอบกลับอีเมลเพื่อยืนยันการเข้าร่วมภายในวันที่ 8 สิงหาคม 2568
    โดยระบุ รุ่น – ลำดับที่ – ชื่อ – หน่วยงาน เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูล
  • อาหารและการจัดเลี้ยง : เอ็มเทคจะจัดเตรียมอาหารว่างและอาหารกลางวันให้ตลอด 2 วันของการสัมมนา
    รวมถึงอาหารเย็นในวันแรก หากท่าน แพ้อาหาร/ทานมังสวิรัติ/อาหารฮาลาล(มุสลิม) กรุณาแจ้งกลับเพื่อเราจะได้จัดเตรียมอาหารให้เหมาะสม
  • กรณีไม่สามารถเข้าร่วมได้ : หากไม่สามารถมาได้ตามวัน-เวลา หรือมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนรายชื่อผู้เข้าร่วม
    กรุณาแจ้งกลับล่วงหน้า
    (หมายเหตุ: การสัมมนานี้ฟรี!!  แต่ศูนย์ฯ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500 บาท/ท่าน หากท่านไม่สามารถเข้าร่วมได้ กรุณาแจ้งยกเลิกล่วงหน้า มิฉะนั้น ศูนย์ฯ ขอเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากท่าน)
  • สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก ศูนย์ฯ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ และขอแจ้งให้ทราบว่าท่านจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการอบรมใน รอบที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้นในรูปแบบ Hybrid (ทั้งในระบบออนไลน์และออนไซต์) สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่นี่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
งานพัฒนากำลังคนเทคโนโลยีวัสดุ
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
คุณกอบกุล อมรมงคล 
โทรศัพท์ 025646500 ต่อ 4676
มือถือ 085-353-6809 หรือ LINE ID: aongnoy25
E-mail : kobkula@mtec.or.th 
http://www.mtec.or.t

The post สัมมนาหัวข้อเรื่อง รู้ทันความเสียหายของท่อไอน้ำในโรงไฟฟ้าชีวมวล การตรวจสอบและแนวทางการป้องกัน appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>