ปัจจุบันการนำสีธรรมชาติมาใช้แทนสีเคมีได้รับความนิยมมากขึ้น แต่การใช้สีธรรมชาติก็ยังมีข้อด้อยคือเฉดสีไม่สม่ำเสมอ สีซีดหรือสีตกระหว่างการใช้งาน กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอและปลูกหม่อนเลี้ยงไหม บ้านโคกหลัก 7 ต.บ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มชุมชน ที่พยายามนำเส้นไหมมาย้อมสีธรรมชาติแทนสีเคมี แต่วิธีการและขั้นตอนที่ย้อมอยู่ ยังมีปัญหาสีด่างดำไม่สม่ำเสมอ ทำให้ต้องสูญเสียเส้นไหมดิบจำนวนมาก
ดร. มณฑล นาคปฐม นักวิจัย ห้องปฏิบัติการสิ่งทอ หน่วยวิจัยโพลิเมอร์ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เล่าว่า ทีมวิจัยของเราได้ร่วมกับ สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงพื้นที่สำรวจเก็บข้อมูลของกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอและปลูกหม่อนเลี้ยงไหม บ้านโคกหลัก 7 ต.บ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ พบว่า ทางกลุ่มผลิตภัณฑ์ฯ ได้พยายามปรับเปลี่ยนจากการย้อมสีของเส้นไหมด้วยสีเคมีมาเป็นการย้อมด้วยสีธรรมชาติ และจากการพูดคุยกับสมาชิกกลุ่ม พบว่าทางกลุ่มผลิตภัณฑ์ฯ ยังขาดองค์ความรู้ทั้งในเรื่องของวัตถุดิบธรรมชาติที่นำมาใช้ทำสีย้อม และกระบวนการย้อม ทำให้บางครั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เจอปัญหาเส้นไหมที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติมีสีด่างไม่สม่ำเสมอและได้เส้นไหมที่มีเฉดสีน้อย เราจึงพยายามหาวัตถุดิบพืชตัวอย่างที่มีอยู่ ในพื้นที่เช่น ใบชมพู่ ใบลำใย หรือใบเหมือดเอามาย้อมสี โดยทีมวิจัยของเราได้เก็บวัตถุดิบตัวอย่างจากชุมชนนำไปพัฒนาในห้องปฏิบัติการโดยใช้เวลาวิจัยค้นคว้าประมาณ 2 เดือน จนได้องค์ความรู้แล้วนำกลับมาถ่ายทอดให้กับชาวบ้านสมาชิกกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอและปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในช่วงวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา
ซึ่งองค์ความรู้ที่นำมาถ่ายทอดให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์นั้น ได้เน้นวิธีการและฝึกกระบวนการคิดเพื่อนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอด ทดลองย้อมสีธรรมชาติจากวัตถุดิบหลากหลายชนิดที่มีปริมาณมากในชุมชนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษ์ของตัวเอง และสร้างเป็นจุดขายของกลุ่มชุมชนได้ ทั้งนี้การย้อมสีธรรมชาติจะให้ได้ผลที่ดีและมีความคงที่ในการย้อมแต่ละครั้งนั้น เราต้องเริ่มจากการทำความสะอาดเส้นไหมให้สะอาดเพียงพอ ซึ่งจะช่วยให้เส้นไหมติดสีย้อมได้ดีขึ้น ส่วนการเตรียมน้ำสีและสารต่างๆที่ช่วยในการย้อมต้องมีการตวงชั่งในอัตราส่วนและปริมาณที่เหมาะสมตามที่กำหนดไว้ และหลังจากการย้อมต้องทำความสะอาดเส้นไหมให้สีที่ไม่ติดหลุดออกให้หมด ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดปัญหาสีตกภายหลัง
นางชื่นจิตร สาระวัน และ นางสอาด ไตรภพ ตัวแทนสมาชิกกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอและปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านโคกหลัก 7 ต.บ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า เริ่มแรกทางกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอของเรามีการย้อมสีเส้นไหมด้วยสีเคมีและสีธรรมชาติสลับสับเปลี่ยนกันไปตามลูกค้าสั่งมา แต่ทางกลุ่มของเราจะย้อมด้วยสีเคมีเป็นส่วนมาก เนื่องจากยังไม่มีความรู้เรื่องการย้อมสีธรรมชาติมากนัก อาศัยการลองผิดลองถูกโดยนำวัตถุดิบจากธรรมชาติภายในชุมชน เช่น เปลือกไม้ ใบไม้ต่างๆ ที่เราคิดว่าจะให้สีได้ตามที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอของเราและลูกค้าต้องการ ซึ่งผลของการย้อมสีธรรมชาติที่ได้บางครั้งได้เฉดสีตามที่เราต้องการ แต่ในบางครั้งก็ไม่ได้ผลตามที่เราคิดไว้ อีกอย่างหลังการย้อมเส้นไหมด้วยสีธรรมชาติแล้ว มักจะพบกับปัญหาสีที่ได้ไม่สม่ำเสมอ ด่างดำ ทำให้ต้องสูญเสียเส้นไหมดิบจำนวนมาก ต่อมาภายหลังลูกค้ามีความสนใจและสั่งซื้อเส้นไหมและผลิตภัณฑ์ที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติมากขึ้น ทางกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอของเราจึงเริ่มค้นคว้าหาความรู้โดยการลองผิดลองถูกเรื่อยมา รวมทั้งมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสนับสนุนด้านความรู้ให้กับเราบ้าง ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอของเราได้มีการย้อมสีเส้นไหมด้วยสีธรรมชาติเกือบร้อยเปอร์เซ็น
ต้องขอขอบคุณคณะนักวิจัยจากเอ็มเทค สวทช. ที่ได้มาถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอของเราในครั้งนี้ ทำให้สมาชิกกลุ่มได้มีความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกๆขั้นตอนของการย้อมเส้นไหมด้วยสีธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่การลอกกาวไหมทำความสะอาดเส้นไหมก่อนการย้อม การต้มน้ำสีย้อม ตลอดจนวิธีการย้อมและทำความสะอาดเส้นไหมหลังการย้อม โดยเฉพาะวิธีการย้อมเส้นไหมที่มีการย้อมแบบผสมสีธรรมชาติจากวัตถุดิบหลายชนิดทำให้ได้เส้นไหมที่มีเฉดสีหลากหลายและมีสีสันสวยงามแปลกตา จากการได้รับความรู้ครั้งนี้ทำให้สมาชิกกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอของเรามีความมั่นใจ และจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เส้นไหมให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับสมาชิกกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอของเราต่อไป