2 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา กรุงเทพมหานคร
ดร.กฤษดา ประภากร รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ แสดงความยินดีแก่ นางฉวีวรรณ คงแก้ว นักวิจัยจากทีมวิจัยน้ำยางและวัสดุยาง กลุ่มวิจัยนวัตกรรมการแปรรูปยาง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เข้ารับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ในงาน “วันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2563” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 22 เพื่อนำเสนอสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมพร้อมใช้และความก้าวหน้าด้านการประดิษฐ์คิดค้นของประเทศให้เกิดการขยายผล และนำไปใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ สอดคล้องกับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และเป้าหมายประเทศไทย 4.0 ในการนำการวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมของประเทศ ภายใต้แนวคิด “สิ่งประดิษฐ์สร้างสรรค์ พัฒนาก้าวไกล นวัตกรรมไทยยั่งยืน” โดยมี รศ.นพ. สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวง อว. เป็นประธาน และ ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) เข้าร่วมแสดงความยินดี
โดยผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัล ได้แก่ นวัตกรรมสารป้องกันน้ำยางพาราสดบูดเน่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตยางแผ่นรมควัน และคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวสวนยาง (Innovation to prevent the spoilage of fresh natural rubber latex for improving the efficiency of smoked rubber sheet production and increasing the quality of farmer’s life)
หัวหน้าผู้ประดิษฐ์คิดค้น นางฉวีวรรณ คงแก้ว
ผู้ร่วมประดิษฐ์
1. นายสุริยกมล มณฑา
2. นางสาวปิยะดา สุวรรณดิษฐากุล
3. นายภิพัฒชา รักดี
4. นางสาวนันทินา มูลประสิทธิ์
5. ดร.สุรพิชญ ลอยกุลนันท์
การบูดเน่าของน้ำยางสดก่อนนำไปผลิตเป็นยางแผ่น เป็นปัญหาที่พบมากในพื้นที่กรีดยางที่อยู่ห่างไกล มีความลำบากในการเดินทาง ทำให้ต้องใช้เวลานานในการขนส่งน้ำยางสดไปยังจุดผลิตยางแผ่น หรือ มีน้ำยางสดในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถผลิตเป็นยางแผ่นได้ทันเวลา น้ำยางสดจึงเกิดการบูดเน่าไปก่อนการผลิตเป็นยางแผ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนน้ำยางสดมีโอกาสเกิดการบูดเน่าได้ง่ายมาก ที่ผ่านมาเกษตรกรมักแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้สารกันบูด เช่น แอมโมเนีย หรือ โซเดียมซัลไฟต์ (ยากันกรอก) เพื่อช่วยยืดอายุน้ำยางสดก่อนนำไปผลิตยางแผ่น แต่แอมโมเนียระเหยง่าย มีกลิ่นฉุน เป็นพิษต่อผู้ปฏิบัติงานและสิ่งแวดล้อม ส่วนยากันกรอกจะทำให้เกิดฟองในแผ่นยาง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของยางแผ่น ทำให้ยางแผ่นมีราคาถูกลง จำเป็นต้องมีการตัดแต่งส่วนที่เป็นฟองอากาศออกจากแผ่นยางก่อนนำไปจำหน่าย ต้องใช้แรงงานคน เพิ่มต้นทุนการผลิต ซึ่งแอมโมเนียและยากันกรอกช่วยป้องการบูดเน่าได้เต็มที่เพียง 1 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตามเกษตรกรนิยมใช้ยากันกรอกเป็นสารป้องกันการบูดเน่าของน้ำยางพาราสดมากกว่าใช้แอมโมเนียเพราะปัญหาเรื่องกลิ่นฉุนของแอมโมเนียเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ ทีมผู้ประดิษฐ์จึงได้พัฒนาสารกันบูดชนิดใหม่ ชื่อว่า บีเทพ (BeThEPS) เพื่อใช้ทดแทนแอมโมเนียและยากันกรอก เพื่อช่วยยืดอายุน้ำยางพาราสดได้นานขึ้น (บูดเน่าช้าลง) และนำไปผลิตเป็นยางแผ่นที่มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของตลาด
คุณสมบัติ และลักษณะเด่น
สารบีเทพ (BeThEPS) เป็นของเหลวสีเหลืองอ่อน ไม่มีกลิ่นเหม็นฉุน ป้องกันน้ำยางพาราสดบูดเน่าได้นาน 1-3 วัน (ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้) ปริมาณการใช้ 2-8 กรัม ต่อ น้ำยางสด 1 กิโลกรัม ลดความเสี่ยงต่อการบูดเน่าของน้ำยางสดก่อนการผลิตเป็นยางแผ่น น้ำยางพาราสดที่เติมสารบีเทพมีค่า pH อยู่ในช่วง 9-11 โดยสารบีเทพจะปลดปล่อยสารฆ่าเชื้อจุลชีพออกมาทีละน้อยในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมกับทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพของอนุภาคยางในน้ำยางพาราสด แผ่นยางจับตัวรีดง่าย ลายดอกได้ชัดเจน เพิ่มปริมาณยางแผ่นรมควันคุณภาพดี ลดปริมาณยางตกเกรด ยางแผ่นรมควันมีคุณภาพดี นำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตล้อยาง ชิ้นส่วนยานยนต์ สายพานลำเลียง พื้นรองเท้า ยางปูพื้น และกาวยาง สร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรสวนยางและผู้แปรรูปยางแผ่น ประหยัดค่าเชื้อเพลิงเพราะลดความถี่ในการขนส่งน้ำยางสดได้ ช่วยให้เกษตรกรมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น และมีเวลาเหลือไปทำงานอื่นได้อีก