research-project Archives - MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ https://www.mtec.or.th/category/research-project/ National Metal and Materials Technology Center Tue, 23 Sep 2025 06:59:16 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.3 https://www.mtec.or.th/wp-content/uploads/2019/03/favicon.ico research-project Archives - MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ https://www.mtec.or.th/category/research-project/ 32 32 แบล็ครับเบอร์และไวท์รับเบอร์ https://www.mtec.or.th/research-projects-77256/ Thu, 06 Feb 2025 05:12:35 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=35072 แบล็ครับเบอร์และไวท์รับเบอร์ Facebook Twitter Line

The post แบล็ครับเบอร์และไวท์รับเบอร์ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

แบล็ครับเบอร์และไวท์รับเบอร์

The post แบล็ครับเบอร์และไวท์รับเบอร์ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางในกองทัพเรือ https://www.mtec.or.th/research-projects-77255/ Thu, 06 Feb 2025 03:29:14 +0000 https://www.mtec.or.th/?p=34999 การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางในกองทัพเรือ ที่มา สวทช. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกองทัพเรือเพื่อดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางสำหรับนำไปใช้งานในกองทัพเรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 กิจกรรมและผลงาน 1. พัฒนาสูตรและเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ยางที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งมอบให้กรมอู่ทหารเรือนำไปผลิตใช้งานจริง ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยางที่ได้รับการพัฒนา เช่น ยางกันกระแทกท่าเรือ แบริ่งรับเพลาเรือ ยางรองแท่นเครื่อง คัปปลิ้งแบบยืดหยุ่น ... Read more

The post การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางในกองทัพเรือ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางในกองทัพเรือ

ที่มา

สวทช. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกองทัพเรือเพื่อดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางสำหรับนำไปใช้งานในกองทัพเรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 

กิจกรรมและผลงาน

1. พัฒนาสูตรและเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ยางที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งมอบให้กรมอู่ทหารเรือนำไปผลิตใช้งานจริง ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยางที่ได้รับการพัฒนา เช่น ยางกันกระแทกท่าเรือ แบริ่งรับเพลาเรือ ยางรองแท่นเครื่อง คัปปลิ้งแบบยืดหยุ่น คัปปลิ้งสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ใบพัดยางสำหรับเครื่องปั๊มน้ำ ยางขอบประตูเรือ ฯลฯ

2. จัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรของกรมอู่ทหารเรืออย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบ

– ลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางจากต่างประเทศ
– ลดระยะเวลาในการซ่อมแซมเรือ ทำให้สามารถนำเรือออกปฏิบัติงานได้ตามกำหนด
– เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรกรมอู่ทหารเรือ 

 

ติดต่อ

คุณเนตรชนก ปิยฤทธิพงศ์
นักวิเคราะห์ 
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ext. 4301
อีเมล: netchanp@mtec.or.th

The post การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางในกองทัพเรือ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพื่อคงคุณค่าของพลาสติกประเภทพีอี https://www.mtec.or.th/research-projects-73591/ Thu, 30 Jan 2025 13:55:25 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=3082 การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพื่อคงคุณค่าของพลาสติกประเภทพีอี บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ (มหาชน) (SCGC) เป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกจำพวกพอลิโอเลฟินส์ทั้งพีพีและพีอี SCGC มุ่งหวังจะเป็นผู้นำด้านโซลูชันเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน จึงได้ดำเนินธุรกิจและกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ที่ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ... Read more

The post การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพื่อคงคุณค่าของพลาสติกประเภทพีอี appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพื่อคงคุณค่าของพลาสติกประเภทพีอี

บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ (มหาชน) (SCGC)

เป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกจำพวกพอลิโอเลฟินส์ทั้งพีพีและพีอี SCGC มุ่งหวังจะเป็นผู้นำด้านโซลูชันเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน จึงได้ดำเนินธุรกิจและกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ที่ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน 

“ถุงนมกู้โลก” เป็นกิจกรรมที่ SCGC ได้ริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เยาวชนใช้สิ่งของอย่างคุ้มค่าและรู้จักแยกขยะ เพื่อเปลี่ยนขยะใกล้ตัวให้มีมูลค่า โดยนำไปรีไซเคิลและผลิตเป็นเก้าอี้พลาสติก อย่างไรก็ดี ถุงนมโรงเรียนผลิตจากพลาสติก LLDPE และ LDPE คุณภาพสูงจึงมีศักยภาพที่จะรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบรอบสองสำหรับผลิตเป็นฟิล์มบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เอื้อต่อระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพถ้ามีการควบคุมคุณภาพของถุงนมที่เก็บกลับคืน

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถรีไซเคิลกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่

SCGC ร่วมมือกับ SWT, MTEC, QPP และผู้มีส่วนได้เสียตลอดโครงข่ายคุณค่าของผลิตภัณฑ์ใช้การหมุนเวียนแบบวงรอบปิดของถุงนมโรงเรียน โดยรับฟังความเห็นและ Design inputs จากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยหลัก D4R (Design for Recycle) ศึกษาแนวทางการคงคุณค่าวัสดุในสายการผลิตจริงทั้งในแนวทางที่ลดการใช้หมึกพิมพ์และการ De-ink และร่วมพัฒนาสูตรคอมพาวนด์พลาสติกรีไซเคิลจากถุงนมโรงเรียน จนสามารถขึ้นรูปเป็นฟิล์มที่มีความหนา 30 ไมโครเมตรได้ โดยตัวแทนของเม็ดรีไซเคิลที่ลดปริมาณสีลงทำให้ฟิล์มที่ผลิตได้มีผิวเรียบ มีความหนาสม่ำเสมอ ขึ้นรูปได้อย่างต่อเนื่อง และมีคุณสมบัติเทียบเท่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นพลาสติกยังมีศักยภาพในการนำไปรีไซเคิลในรอบถัดๆ ไปได้ การผลิตเม็ดรีไซเคิลตามแนวทางนี้จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้ทดแทนเม็ดพลาสติกใหม่สำหรับผลิตเป็นถุงนมได้อีกครั้งถ้ากฎหมายอนุญาต

“สิ่งที่เราจะทำก็คือ เมื่อนำวัสดุกลับมาใช้ในระบบ เราอาจจะต้องพัฒนาคุณภาพของมันให้กลับมามีความแข็งแรงเท่าเดิม มีสีที่ปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า หรือมีคุณสมบัติด้านอื่นๆ ซึ่งเราจะเติมองค์ความรู้เพื่อพัฒนาวัสดุ แล้วทำการทดสอบทำรีพอร์ตให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าวัสดุเหล่านี้จะสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเรามองว่าคือการพัฒนาสิ่งดีๆ คืนให้แก่สังคม”

ไพรฑูร สันติวิสุทธิ์
Application Incubation Manager ศูนย์ i2P
บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน)

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถรีไซเคิลกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่

SCGC ร่วมมือกับ SWT, MTEC, QPP และผู้มีส่วนได้เสียตลอดโครงข่ายคุณค่าของผลิตภัณฑ์ใช้การหมุนเวียนแบบวงรอบปิดของถุงนมโรงเรียน โดยรับฟังความเห็นและ Design inputs จากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยหลัก D4R (Design for Recycle) ศึกษาแนวทางการคงคุณค่าวัสดุในสายการผลิตจริงทั้งในแนวทางที่ลดการใช้หมึกพิมพ์และการ De-ink และร่วมพัฒนาสูตรคอมพาวนด์พลาสติกรีไซเคิลจากถุงนมโรงเรียน จนสามารถขึ้นรูปเป็นฟิล์มที่มีความหนา 30 ไมโครเมตรได้ โดยตัวแทนของเม็ดรีไซเคิลที่ลดปริมาณสีลงทำให้ฟิล์มที่ผลิตได้มีผิวเรียบ มีความหนาสม่ำเสมอ ขึ้นรูปได้อย่างต่อเนื่อง และมีคุณสมบัติเทียบเท่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นพลาสติกยังมีศักยภาพในการนำไปรีไซเคิลในรอบถัดๆ ไปได้ การผลิตเม็ดรีไซเคิลตามแนวทางนี้จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้ทดแทนเม็ดพลาสติกใหม่สำหรับผลิตเป็นถุงนมได้อีกครั้งถ้ากฎหมายอนุญาต

“สิ่งที่เราจะทำก็คือ เมื่อนำวัสดุกลับมาใช้ในระบบ เราอาจจะต้องพัฒนาคุณภาพของมันให้กลับมามีความแข็งแรงเท่าเดิม มีสีที่ปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า หรือมีคุณสมบัติด้านอื่นๆ ซึ่งเราจะเติมองค์ความรู้เพื่อพัฒนาวัสดุ แล้วทำการทดสอบทำรีพอร์ตให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าวัสดุเหล่านี้จะสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเรามองว่าคือการพัฒนาสิ่งดีๆ คืนให้แก่สังคม”

ไพรฑูร สันติวิสุทธิ์
Application Incubation Manager ศูนย์ i2P
บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน)

The post การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพื่อคงคุณค่าของพลาสติกประเภทพีอี appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
กรวยจราจรยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก https://www.mtec.or.th/research-projects-77254/ Thu, 30 Jan 2025 08:13:43 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=2532 กรวยจราจรยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก ที่มา จากนโยบายส่งเสริมการใช้ยางธรรมชาติ (ยางพารา) ภายในประเทศของภาครัฐโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยพยุงราคายางและทำให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้สูงขึ้น ปัจจุบันจึงได้มีความพยายามที่จะนำยางธรรมชาติไปใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมขนส่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญและเริ่มการผลิตใช้งานจริงไปบ้างแล้ว เช่น การนำยางธรรมชาติไปใช้ในการผลิตเสาหลักกิโล แนวกันโค้ง และแผ่นยางกันชนครอบแบริเออร์คอนกรีต เป็นต้น งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่จะนำยางธรรมชาติไปใช้ในการผลิตกรวยกั้นจราจร ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและจำเป็นต้องใช้จำนวนมากในแต่ละปี ... Read more

The post กรวยจราจรยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

กรวยจราจรยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก

ที่มา

จากนโยบายส่งเสริมการใช้ยางธรรมชาติ (ยางพารา) ภายในประเทศของภาครัฐโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยพยุงราคายางและทำให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้สูงขึ้น ปัจจุบันจึงได้มีความพยายามที่จะนำยางธรรมชาติไปใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมขนส่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญและเริ่มการผลิตใช้งานจริงไปบ้างแล้ว เช่น การนำยางธรรมชาติไปใช้ในการผลิตเสาหลักกิโล แนวกันโค้ง และแผ่นยางกันชนครอบแบริเออร์คอนกรีต เป็นต้น

งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่จะนำยางธรรมชาติไปใช้ในการผลิตกรวยกั้นจราจร ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและจำเป็นต้องใช้จำนวนมากในแต่ละปี กรวยกั้นจราจรเหล่านี้ส่วนใหญ่ผลิตจากพลาสติก เช่น เอทิลีนไวนิลอะซีเทตโคพอลิเมอร์ (Ethylene Vinyl Acetate Copolymer, EVA) พอลิเอทิลีน (Polyethylene, PE) หรือ พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride, PVC) ทำให้มีความทนทานต่อการพับงอต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับยาง หากถูกชนหรือถูกกดทับบ่อยๆ ก็จะแตกหักได้ง่ายกว่า อีกทั้งเมื่อผ่านการใช้งานกลางแจ้งเป็นระยะเวลาหนึ่ง กรวยกั้นจราจรเหล่านี้มักจะเสื่อมสภาพ กรอบ และแตกหักง่าย ทำให้มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้น คณะวิจัยจึงได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic Natural Rubber, TPNR) เพื่อนำไปใช้ผลิตกรวยกั้นจราจรคุณภาพสูง

เป้าหมาย

ผลิตกรวยจราจรที่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติมีสมบัติที่ดีกว่าหรือเทียบเท่ากรวยจราจรพลาสติก เช่น มีความยืดหยุ่น ไม่แตกหักเมื่อถูกรถแล่นทับ

ทีมวิจัยทำอย่างไร

ทีมวิจัยเอ็มเทคดำเนินการทดสอบผลิตภัณฑ์โดยการเตรียมยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก ศึกษาการขึ้นรูปกรวยกั้นจราจรด้วยวิธีการฉีดขึ้นรูป (injection molding) จากนั้นทำการทดสอบสมบัติของกรวยที่ได้เพื่อให้มีสมบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกรวยพลาสติกกั้นจราจรหรือสมบัติตามที่บริษัทต้องการ

ผลวิจัย

กรวยกั้นจราจรยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติกมีความทนทานต่อแรงกระแทกและความทนต่อการพับงอสูงกว่ากรวยกั้นจราจรทางการค้า

สถานภาพการวิจัย

ผลงานนี้ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่บริษัท ธนัทธร จำกัด

แผนงานวิจัยในอนาคต

อาจขยายผลไปที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้ในการคมนาคม

รายชื่อทีมวิจัย

ดร.ภาสรี เล้ากิจเจริญ, ธงศักดิ์ แก้วประกอบ

ติดต่อ

ดร.ภาสรี เล้ากิจเจริญ (นักวิจัย)
ทีมวิจัยผลิตภัณฑ์ยางรูปแบบใหม่และมาตรฐาน
กลุ่มวิจัยนวัตกรรมการแปรรูปยาง
โทรศัพท์ 02 564 6500 ต่อ 4443
อีเมล pasareel@mtec.or.th

The post กรวยจราจรยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
โครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล https://www.mtec.or.th/research-projects-77262/ Thu, 30 Jan 2025 07:36:30 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=2523 โครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล ที่มา รถตู้พยาบาลจัดเป็นรถเฉพาะกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อขนย้ายผู้ป่วยจากจุดที่ต้องการไปยังโรงพยาบาล โดยบุคลากรทางการแพทย์สามารถทำหัตถการฉุกเฉินที่จำเป็นบนรถเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยในระหว่างการนำส่งได้ สำหรับประเทศไทยโครงสร้างห้องโดยสารรถตู้พยาบาลดัดแปลงจากรถตู้พาณิชย์โดยผู้ผลิตรถเฉพาะทาง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ต้นทุนการผลิต ตลอดจนยังไม่มีเกณฑ์ควบคุมความปลอดภัยที่ชัดเจนจากหน่วยงานรัฐ ทำให้ข้อกำหนดด้านความแข็งแรงโครงสร้างของห้องโดยสารรถพยาบาลถูกละเลย เมื่อเกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะรถเกิดการพลิกคว่ำ โครงสร้างห้องโดยสารมักเกิดการยุบตัวค่อนข้างมากเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเกิดการบาดเจ็บซ้ำซ้อน อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ได้รับอันตราย นำมาสู่ความเสียหายที่มิอาจประเมินค่าได้ แนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าวสามารถกระทำได้ด้วยการนำข้อกำหนดการประเมินความปลอดภัยห้องโดยสารของรถโดยสารขนาดใหญ่จากการพลิกคว่ำ UN ... Read more

The post โครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

โครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล

ที่มา

รถตู้พยาบาลจัดเป็นรถเฉพาะกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อขนย้ายผู้ป่วยจากจุดที่ต้องการไปยังโรงพยาบาล โดยบุคลากรทางการแพทย์สามารถทำหัตถการฉุกเฉินที่จำเป็นบนรถเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยในระหว่างการนำส่งได้

สำหรับประเทศไทยโครงสร้างห้องโดยสารรถตู้พยาบาลดัดแปลงจากรถตู้พาณิชย์โดยผู้ผลิตรถเฉพาะทาง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ต้นทุนการผลิต ตลอดจนยังไม่มีเกณฑ์ควบคุมความปลอดภัยที่ชัดเจนจากหน่วยงานรัฐ ทำให้ข้อกำหนดด้านความแข็งแรงโครงสร้างของห้องโดยสารรถพยาบาลถูกละเลย เมื่อเกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะรถเกิดการพลิกคว่ำ โครงสร้างห้องโดยสารมักเกิดการยุบตัวค่อนข้างมากเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเกิดการบาดเจ็บซ้ำซ้อน อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ได้รับอันตราย นำมาสู่ความเสียหายที่มิอาจประเมินค่าได้

แนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าวสามารถกระทำได้ด้วยการนำข้อกำหนดการประเมินความปลอดภัยห้องโดยสารของรถโดยสารขนาดใหญ่จากการพลิกคว่ำ UN Regulation No. 66 หรือ UN R66 มาใช้ปรับปรุงโครงสร้างด้วยการสร้างพื้นที่ความปลอดภัยเสมือนในห้องโดยสารจากการขยับระยะจากผนังด้านในของห้องโดยสารเข้ามา แล้วพัฒนาโครงสร้างห้องโดยสารรถตู้พยาบาลให้มีความแข็งแรงเพียงพอ และสอดคล้องกับข้อกำหนดของการทดสอบดังกล่าว ที่เมื่อเกิดการพลิกคว่ำแล้ว โครงสร้างห้องโดยสารจะไม่ยุบตัวล้ำเข้าไปในพื้นที่ความปลอดภัยเสมือนที่กำหนดขึ้น โดยใช้ผลการวิเคราะห์ด้วยระเบียบวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ร่วมกับการทดสอบการพลิกคว่ำจริง เปรียบเทียบความแข็งแรงโครงสร้างห้องโดยสารรถตู้พยาบาลก่อนและหลังเสริมความแข็งแรงโครงสร้าง

เป้าหมาย

ทีมวิจัยของเอ็มเทค และบริษัท สุพรีร่า อินโนเวชั่น จำกัด ร่วมกันพัฒนาโครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาลที่มีความแข็งแรงเพียงพอตามมาตรฐาน UN R66

ทีมวิจัยทำอย่างไร

  1. ศึกษาข้อกำหนดเชิงเทคนิคในการออกแบบห้องโดยสารรถตู้พยาบาล และสรุปแนวทางการนำข้อกำหนด UN R66 เพื่อใช้ประยุกต์ในการจำลองและทดสอบการพลิกคว่ำของโครงสร้างห้องโดยสารรถตู้พยาบาล
  2. จัดหาซากโครงสร้างรถตู้คันที่ 1 เพื่อนำมาใช้สร้างเป็นแบบจำลองคอมพิวเตอร์ของโครงสร้างห้องโดยสารรถตู้พยาบาล และนำไปดัดแปลงให้เป็นห้องโดยสารรถตู้พยาบาล ที่ติดตั้งอุปกรณ์ใช้งานเทียบเท่ารถตู้พยาบาลจริง เก็บข้อมูลทางกายภาพ ติดตั้งพื้นที่ปลอดภัยตามข้อกำหนด UN R66 รวมถึงเครื่องมือวัดที่จำเป็นเพื่อเก็บข้อมูลในระหว่างทดสอบการพลิกคว่ำ
  3. นำโครงสร้างรถตู้พยาบาลมาทดสอบการพลิกคว่ำจริง เพื่อประเมินว่าโครงสร้างรถตู้พยาบาลที่ยังไม่มีการเสริมโครงสร้างความแข็งแรงสอดคล้องกับข้อกำหนดดังกล่าวหรือไม่ ตลอดจนมีโครงสร้างใดที่ควรปรับปรุง หรือเสริมความแข็งแรง จากนั้นตัดชิ้นส่วนในตำแหน่งที่ต้องการและไม่ได้รับความเสียหายไปทดสอบหาค่าสมบัติทางกลของวัสดุ รวมถึงวิเคราะห์ชิ้นงานเฉพาะส่วนด้วยการกดดัด
  4. จำลองการกดดัดแบบ 3 จุด ของชิ้นงานเฉพาะส่วน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของสมบัติทางกลของวัสดุ การกำหนดค่าตัวแปรในการวิเคราะห์ และความสอดคล้องของกระบวนการวิเคราะห์บนคอมพิวเตอร์ เปรียบเทียบกับการทดสอบจริง เพื่อนำไปขยายผลจำลองการพลิกคว่ำของรถตู้พยาบาลทั้งคัน
  5. จำลองการพลิกคว่ำของโครงสร้างรถตู้พยาบาลตาม UN R66 บนคอมพิวเตอร์ช่วย เปรียบเทียบผลที่ได้กับผลการจำลองการพลิกคว่ำจริง โดยมีการปรับตัวแปร ข้อมูลการวิเคราะห์ จนผลที่ได้สอดคล้องกัน ซึ่งจะทำให้ได้แบบจำลอง และแนวทางการพัฒนาการออกแบบทางวิศวกรรมของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล เมื่อเกิดการพลิกคว่ำตามข้อกำหนด UN R66
  6. ออกแบบโครงสร้างเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล โดยพิจารณาถึงต้นทุน ความสามารถในการผลิต และการติดตั้ง จากนั้นนำข้อมูลที่ได้ไปสร้างเป็นแบบจำลองสามมิติ และติดตั้งบนแบบจำลองคอมพิวเตอร์ของรถตู้พยาบาล แล้วจำลองการพลิกคว่ำ กรณีผลลัพธ์ที่ได้ไม่สอดคล้องกับข้อกำหนด UN R66 จะทำการปรับแบบจำลองและคำนวณใหม่ โดยจะทำวนซ้ำจนได้โครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาลที่เป็นไปตามมาตรฐาน UN R66 และมีความเป็นไปได้ในการผลิตเชิงพาณิชย์
  7. จัดหาซากโครงสร้างรถตู้คันที่ 2 ดัดแปลงให้เป็นห้องโดยสารรถตู้พยาบาล โดยติดตั้งอุปกรณ์เทียบเท่ารถตู้พยาบาลที่ใช้งานจริง แล้วทดสอบการพลิกคว่ำจริงเปรียบเทียบกับผลการจำลองในข้อที่ 6 เพื่อยืนยันถึงแนวทางการออกแบบโครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล

ผลวิจัย

แนวทางการออกแบบและผลิตโครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาลที่มีความแข็งแรงเพียงพอตามมาตรฐาน UN R66 และมีต้นทุนที่เหมาะสม

สถานภาพการวิจัย

ผลงานนี้ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ภายใต้สัญญากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยมีบริษัท สุพรีร่า อินโนเวชั่น จำกัด เป็นผู้ร่วมทุนวิจัย และผู้นำเทคโนโลยีไปใช้

แผนงานวิจัยในอนาคต

องค์ความรู้จากจากงานวิจัยนี้ได้นำไปใช้ในการพัฒนาชิ้นส่วนเสริมความแข็งแรงเพื่อรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาลที่ดัดแปลงจากรถตู้เชิงพาณิชย์โฉมใหม่

รายชื่อทีมวิจัย

ณรงค์ พิทักษ์ทรัพย์สิน, ดร.ศราวุธ เลิศพลังสันติ, ดร.สุธี โอฬารฤทธินันท์, ดร.ฉัตรชัย ศรีสุรางค์กุล, ประสิทธิ์ วัฒนวงศ์สกุล, พีรกิตติ์ วิริยะรัตนศักดิ์, เศรษฐลัทธ์ แปงเครื่อง และ อรรถพล พลาศรัย

ติดต่อ

ณรงค์ พิทักษ์ทรัพย์สิน (วิศวกรอาวุโส)
ทีมวิจัยเทคโนโลยียานยนต์และการขับขี่
กลุ่มวิจัยการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการคำนวณ
โทรศัพท์ 02 564 6500 ต่อ 4357
อีเมล narongp@mtec.or.th

The post โครงสร้างเสริมความแข็งแรงในการรองรับการพลิกคว่ำของห้องโดยสารรถตู้พยาบาล appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
ระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูง https://www.mtec.or.th/research-projects-70636/ Thu, 30 Jan 2025 07:33:19 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=2599 ระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูง ที่มา เถ้าที่เหลือจากการเผาถ่านหินที่เกาะสะสมบนผนังภายในหม้อน้ำของโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ส่งผลโดยตรงต่อเสถียรภาพและประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะถ่านหินลิกไนต์ที่ขุดจากเหมืองแม่เมาะซึ่งมีปริมาณเถ้าแคลเซียมออกไซด์ (CaO) หลังจากการเผาไหม้สูง และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ดังนั้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจึงสนใจที่จะพัฒนาระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาโรงไฟฟ้าแม่เมาะด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูงและระบบที่เกี่ยวข้อง เป้าหมาย พัฒนาเทคโนโลยีในการทำความสะอาดผนังเตาแบบออนไลน์อัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทีมวิจัยทำอย่างไร พัฒนาระบบหุ่นยนต์ 2 แกนสําหรับฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อกําจัดเถ้าสะสมที่เกาะบนผนังเตา ... Read more

The post ระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูง appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

ระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูง

ที่มา
เถ้าที่เหลือจากการเผาถ่านหินที่เกาะสะสมบนผนังภายในหม้อน้ำของโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ส่งผลโดยตรงต่อเสถียรภาพและประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะถ่านหินลิกไนต์ที่ขุดจากเหมืองแม่เมาะซึ่งมีปริมาณเถ้าแคลเซียมออกไซด์ (CaO) หลังจากการเผาไหม้สูง และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ดังนั้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจึงสนใจที่จะพัฒนาระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาโรงไฟฟ้าแม่เมาะด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูงและระบบที่เกี่ยวข้อง

เป้าหมาย
พัฒนาเทคโนโลยีในการทำความสะอาดผนังเตาแบบออนไลน์อัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

ทีมวิจัยทำอย่างไร
พัฒนาระบบหุ่นยนต์ 2 แกนสําหรับฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อกําจัดเถ้าสะสมที่เกาะบนผนังเตา รวมถึงซอฟต์แวร์ในการประมวลผลอุณหภูมิที่อ่านได้จากผนังเตา เพื่อประเมินปริมาณการสะสมตัวของเถ้าบนผนังเตา และใช้ควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ให้ทำความสะอาดผนังเตาในตำแหน่งที่มีเถ้าสะสมสูง (focus cleaning) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลงานวิจัย
ระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูง สามารถรองรับปัญหาการเพิ่มขึ้นของปริมาณแคลเซียมออกไซด์ในถ่านหินในอนาคต ระบบนี้สามารถปรับการทำงานได้ตามต้องการ มีประสิทธิภาพในการกำจัดเถ้าสะสมได้ตรงจุด ลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านเทคโนโลยีและค่าซ่อมบำรุงลงได้ การพัฒนาระบบดังกล่าวขึ้นมาใช้เองในประเทศยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับมาตรฐานขององค์กรด้วยการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

สถานภาพการวิจัย
อยู่ระหว่างการทดสอบระบบในระยะที่ 2 ร่วมกับหน่วยผลิตไฟฟ้าที่ 11 โรงไฟฟ้าแม่เมาะ

แผนงานวิจัยในอนาคต
บูรณาการความรู้และทักษะที่ใช้ในการออกแบบและสร้างระบบทำความสะอาดฯ ร่วมกับพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณเพื่อจำลองสนามการไหล (flow field simulation) ของการถ่ายเทความร้อนและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI)

รายชื่อทีมวิจัย
ดร.นิรุตต์ นาคสุข, จิรเดช นาคเงินทอง, ฉัตรชัย สุขศรีเมือง, ชัยยันต์ สกุลเพชรอร่าม, ณรงค์กร ภัทรมาศ, อนุสรณ์ เอี่ยมฤกษ์ศิริ, กฤษฎา ท่าพระเจริญ, วราวุธ พรินทรากูล และ รัตนพล ยุทธวิริยะ

ติดต่อ
ดร.นิรุตต์ นาคสุข
กลุ่มวิจัยกระบวนการทางวัสดุและการผลิตอัตโนมัติ
โทรศัพท์ 02 564 6500ต่อ4149
อีเมล nirutn@mtec.or.th

The post ระบบทำความสะอาดเถ้าสะสมผนังเตาด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูง appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
ถุงห่อทุเรียน Magik Growth https://www.mtec.or.th/research-projects-77277/ Thu, 30 Jan 2025 04:12:08 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=2386 ถุงห่อทุเรียน Magik Growth ที่มา ทุเรียนเป็นผลไม้เศรษฐกิจของประเทศที่ปัจจุบันนิยมปลูกเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 5 เดือนของปี 2564 ทุเรียนมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดที่ 58.344 พันล้านบาท สร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรเป็นอันดับ 2 รองจากยางพารา ... Read more

The post ถุงห่อทุเรียน Magik Growth appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

ถุงห่อทุเรียน Magik Growth

ที่มา
ทุเรียนเป็นผลไม้เศรษฐกิจของประเทศที่ปัจจุบันนิยมปลูกเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 5 เดือนของปี 2564 ทุเรียนมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดที่ 58.344 พันล้านบาท สร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรเป็นอันดับ 2 รองจากยางพารา ปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนพบในการดูแลผลิตผลทุเรียนที่อยู่ในระยะการพัฒนาผลตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการเก็บเกี่ยวคือ การเข้าทำลายของสัตว์และแมลงศัตรูพืชหลายชนิด ซึ่งทำให้ผลผลิตเสียหาย และราคาตกต่ำ

วิธีที่ชาวสวนนิยมปฏิบัติคือการใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดสัตว์และแมลงศัตรูพืช หากมีการระบาดรุนแรงอาจจำเป็นต้องฉีดพ่นสารเคมีสัปดาห์ละครั้งหรืออาจทุก 10 วัน สารเคมีเหล่านั้นก่อให้เกิดสารพิษตกค้างทั้งในผลผลิต ผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ส่งผลถึงการส่งออกที่มีมาตรฐานกำหนดเรื่องปริมาณสารพิษตกค้าง อีกทั้งยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตทุเรียนของชาวสวนเพิ่มขึ้น

จากปัญหาดังกล่าว ทีมวิจัยสิ่งทอ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ได้พัฒนาวัสดุนอนวูฟเวนจากสูตรพอลิเมอร์คอมพาวด์และการขึ้นรูปนอนวูฟเวนที่เหมาะสม เพื่อนำมาตัดเย็บเป็นถุงห่อทุเรียน และนำไปทดสอบในพื้นที่สวนของเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งให้แนวโน้มผลลัพธ์ที่ดี ช่วยลดการใช้สารเคมี ทุเรียนมีผิวสะอาด ผลทุเรียนที่ได้มีน้ำหนักสูงกว่าผลที่ไม่ได้ห่อผล และมีแนวโน้มปริมาณสัดส่วนของเนื้อทุเรียนเพิ่มขึ้น

เป้าหมาย
ลดการใช้สารเคมีในสวนทุเรียนโดยใช้ถุงห่อผล รวมถึงส่งต่อความรู้ให้กับเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร แกนนำ และผู้สนใจ

  1. เกิดความร่วมมือระหว่างเครือข่ายเกษตรกร หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในการขยายผลองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน

ทีมวิจัยทำอย่างไร
ทีมวิจัยเอ็มเทคออกแบบลักษณะโครงสร้างและสูตรการผลิตวัสดุนอนวูฟเวนให้มีความแข็งแรง อากาศและน้ำสามารถผ่านเข้าออกได้ และมีการคัดเลือกช่วงแสงที่เหมาะสม โดยร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังทดสอบภาคสนามตั้งแต่ปี 2562 เก็บข้อมูลผลผลิต และในปี 2565 ได้ร่วมกับพันธมิตร เช่น สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) เขตนวัตกรรมระเบียง เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) และสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี อบรมให้ความรู้เรื่องการใช้ถุงห่อทุเรียนแก่เกษตรกร ทั้งลงพื้นที่ (on-site) และอบรมออนไลน์ (online) โดยมีเกษตรกรที่สนใจเข้ารับฟังเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ได้แจกถุงห่อทุเรียน Magik Growth ให้เกษตรกรใช้งานเพื่อสร้างการรับรู้และตระหนักถึงการป้องกันผลผลิตโดยลดการใช้สารเคมี เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจไทย และประชาชนมีรายได้มากขึ้น สอดคล้องกับวาระแห่งชาติ โมเดลเศรษฐกิิจ BCG model (Bio-Circular-Green Economy)

ผลวิจัย
ถุงห่อทุเรียนนอนวูฟเวนมีความคงทนต่อสภาวะการใช้งาน สามารถใช้ได้ 3 รอบการเก็บเกี่ยว ช่วยให้เปลือกทุเรียนบางลง 20-30% น้ำหนักผลสูงขึ้น 10-15% ป้องกันหนอน กระรอก กระแต เจาะผล และลดเพลี้ยแป้ง ราดำได้ ทำให้ลดการใช้สารเคมีตั้งแต่เริ่มห่อถึงเก็บเกี่ยว (2 เดือน) นอกจากนั้น เกษตรกรยังสามารถขายผลผลิตทุเรียนที่ห่อถุงได้ในราคาสูงกว่าราคาตลาด 10-30%

สถานภาพการวิจัย

ผลงานวิจัยนี้ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) และมีการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ให้แก่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเกษตรกรทั่วไปตั้งแต่ไตรมาส 1/2565

แผนงานวิจัยในอนาคต

  1. ออกแบบถุงห่อให้สามารถทนทานต่อแรงลม และอุปกรณ์สำหรับช่วยห่อในที่สูง
  2. ทดลองห่อผลไม้เศรษฐกิจชนิดอื่น เช่น อินทผาลัม

รายชื่อทีมวิจัย

ดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ, ดร.จุรีรัตน์ ประสาร, วัฒนา กลิ่นสุคนธ์, ศิรดา ภาดี และประภัสสร วันนิจ

ติดต่อ

ดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ (นักวิจัย)
ทีมวิจัยสิ่งทอ
กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง
โทรศัพท์ 02 564 6500 ต่อ 4464, 4727
อีเมล natthaps@mtec.or.th

The post ถุงห่อทุเรียน Magik Growth appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
BICBOK แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป https://www.mtec.or.th/research-projects-40088-2/ Thu, 30 Jan 2025 03:28:46 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=2712 BICBOK แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป ที่มา ยางมะตอยเป็นวัสดุที่นิยมอย่างมากในการนำมาใช้ปิดผิวพื้นถนนและทางเดินต่างๆ เนื่องจากมีความคงทนและยืดหยุ่นสูง แต่มักมีข้อจำกัดต่อการนำมาใช้เพราะต้องอาศัยเครื่องจักรขนาดใหญ่ในการทำงาน จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ “แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” พร้อมใช้งาน โดยบริษัท บิทูเมนต์ อินโนเวชั่น จำกัด ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ... Read more

The post BICBOK แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

BICBOK แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป

ที่มา
ยางมะตอยเป็นวัสดุที่นิยมอย่างมากในการนำมาใช้ปิดผิวพื้นถนนและทางเดินต่างๆ เนื่องจากมีความคงทนและยืดหยุ่นสูง แต่มักมีข้อจำกัดต่อการนำมาใช้เพราะต้องอาศัยเครื่องจักรขนาดใหญ่ในการทำงาน จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ “แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” พร้อมใช้งาน โดยบริษัท บิทูเมนต์ อินโนเวชั่น จำกัด ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) วิจัยและพัฒนาต่อนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ “Bicbok : แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” พร้อมใช้งาน ที่สามารถนำไปใช้ปูปิดทับพื้นผิวที่หลากหลายได้ง่าย สะดวกและรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เครื่องจักรและพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้งานได้กับพื้นที่ทุกขนาดและยังคงคุณลักษณะที่โดดเด่นของยางมะตอย

เป้าหมาย
เพื่อวิจัยและพัฒนาต่อยอดสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบ “แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” ในระดับอุตสาหกรรม ที่ใช้งานง่าย สะดวกและรวดเร็ว โดยยังคงคุณสมบัติที่ดีและสามารถนำไปใช้ในงานที่หลากหลายได้

ทีมวิจัยทำอย่างไร
ได้ร่วมกับภาคเอกชนในการออกแบบและปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรในกระบวนการผลิต รวมทั้งพัฒนาต่อยอดสมบัติด้านอื่นๆของแผ่นพื้นโดยเพิ่มสารผสมอื่นๆที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการนำเอามาใช้ประโยชน์ให้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ต้นแบบแผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป

คุณสมบัติ
ใช้งานง่ายสะดวกและติดตั้งได้รวดเร็ว มีความนุ่มนวลสบายเท้าเวลาเดินช่วยลดแรงกระแทก เมื่อมีน้ำขังจะไม่เกิดการลื่นไหลเหมือนในงานพื้นคอนกรีตทั่วไป ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ๆมีผู้สูงอายุอาศัยและทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ แผ่นพื้นยังมีความคงทนแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักกดได้สูงเทียบเท่ากับแผ่นปูพื้นปกติทั่วไป

สถานภาพงานวิจัย
ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตต้นแบบแผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูปในระดับอุตสาหกรรม ภายใต้โครงการสนับสนุนเร่งการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรมรายใหม่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Research Gap Fund)

แผนงานในอนาคต
การพัฒนาต่อยอดสมบัติด้านอื่นๆเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การเติมวัสดุที่มีความพรุนตัวสูง มีสมบัติน้ำซึมผ่านได้ดี ช่วยพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นแผ่นพื้นยางมะตอยน้ำซึมผ่านได้ การใช้วัสดุสะท้อนแสงเพิ่มลงไปเพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็นในเวลากลางคืนเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ หรือการใช้วัสดุที่มีความนุ่มนวลเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุหกล้มที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้สูงอายุอาศัยและทำกิจกรรมต่างๆ

ทีมวิจัย
ดร.พิทักษ์ เหล่ารัตนกุล และ นายศุธีรพันธ์ พันธ์เลิศ

ติดต่อ
ดร.พิทักษ์ เหล่ารัตนกุล
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
โทรศัพท์ 02 564 6500 ต่อ 4242
อีเมล์ PITAKL@mtec.or.th

The post BICBOK แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
Thermoplastic Starch จากกระบวนการอัดรีดแบบสกรูคู่ https://www.mtec.or.th/research-projects-77097/ Wed, 29 Jan 2025 15:16:06 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=6035 Thermoplastic Starch จากกระบวนการอัดรีดแบบสกรูคู่  ที่มายางรถฟอร์คลิฟท์เป็นผลิตภัณฑ์ยางตันขนาดใหญ่ซึ่งใช้กับรถยกของตามโรงงานต่าง ๆ เนื่องจากรถฟอร์คลิฟท์ต้องรับน้ำหนักสูงและอาจถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ยางรถโฟล์คลิฟท์จึงต้องมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการสึกหรอได้ดี และมีความร้อนสะสมที่เกิดจากการใช้งานต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการระเบิดที่อาจเกิดขึ้นในสภาวะที่ใช้งานหนักและต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ยางรถฟอร์คลิฟท์จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องผลิตจากยางธรรมชาติเพราะยางธรรมชาติมีสมบัติเชิงกลดีเยี่ยม มีความยืดหยุ่นสูง และมีความร้อนสะสมต่ำ อย่างไรก็ดี เนื่องจากความแตกต่างทางด้านเทคโนโลยีการผลิต ... Read more

The post Thermoplastic Starch จากกระบวนการอัดรีด<br/>แบบสกรูคู่ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

Thermoplastic Starch จากกระบวนการอัดรีดแบบสกรูคู่

 ที่มา
ยางรถฟอร์คลิฟท์เป็นผลิตภัณฑ์ยางตันขนาดใหญ่ซึ่งใช้กับรถยกของตามโรงงานต่าง ๆ เนื่องจากรถฟอร์คลิฟท์ต้องรับน้ำหนักสูงและอาจถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ยางรถโฟล์คลิฟท์จึงต้องมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการสึกหรอได้ดี และมีความร้อนสะสมที่เกิดจากการใช้งานต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการระเบิดที่อาจเกิดขึ้นในสภาวะที่ใช้งานหนักและต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ยางรถฟอร์คลิฟท์จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องผลิตจากยางธรรมชาติเพราะยางธรรมชาติมีสมบัติเชิงกลดีเยี่ยม มีความยืดหยุ่นสูง และมีความร้อนสะสมต่ำ อย่างไรก็ดี เนื่องจากความแตกต่างทางด้านเทคโนโลยีการผลิต ส่งผลทําให้ยางรถโฟล์คลิฟท์ของแต่ละบริษัทมีต้นทุนและคุณภาพที่แตกต่างกัน บริษัทสยามไพโอเนียร์รับเบอร์ จํากัด เป็นบริษัทฯ ผู้ผลิตยางล้อตันสําหรับใช้กับรถฟอร์คลิฟท์ภายใต้เครื่องหมายการค้า PIO-TYRE, BIG-TYRES และ JR-TYRES ที่เริ่มทําการผลิตและจําหน่ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 โดยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ จากกระแสความห่วงใยในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่มีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน ดังนั้น บริษัทฯ จึงว่าจ้างทีมวิจัยเอ็มเทควิจัยและพัฒนายางล้อตันให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงขึ้น

เป้าหมาย
(1) องค์ความรู้ด้านกระบวนการผลิตและต้นแบบเทอร์โมพลาสติกสตาร์ชจากกระบวนการอัดรีดแบบสกรูคู่ในระดับกึ่งอุตสาหกรรม

(2) คอมพาวด์หรือพลาสติกผสมระหว่างเทอร์โมพลาสติกสตาร์ชกับโพลิเมอร์ย่อยสลายได้ที่พร้อมนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกย่อยสลายได้

ทีมวิจัยทำอย่างไร
ทีมวิจัยใช้องค์ความรู้ด้านกระบวนการอัดรีดแบบสกรูคู่ โดยออกแบบสกรู รวมถึงกระบวนการหลอมผสมและควบคุมระบบสุญญากาศในการดึงน้ำออก เพื่อแปรเปลี่ยนวัตถุดิบแป้งมันสำปะหลังให้เป็นเทอร์โมพลาสติกสตาร์ช รวมถึงกระบวนการเตรียมพลาสติกผสมหรือคอมพาวด์ที่พร้อมใช้งาน โดยในขั้นตอนสุดท้าย ทีมวิจัยได้สาธิตการเตรียมผลิตภัณฑ์ฟิล์มบางด้วยกระบวนการเป่า (blown film process)

ผลงานวิจัย

  • สร้างองค์ความรู้ด้านกระบวนการผลิตและต้นแบบเม็ดพลาสติกเทอร์โมพลาสติกสตาร์ช
  • สามารถผลิตต้นแบบเม็ดพลาสติกผสมหรือคอมพาวด์ระหว่างเทอร์โมพลาสติกสตาร์ชกับโพลิเมอร์ย่อยสลายได้
  • ผลิตต้นแบบฟิล์มเป่าขึ้นรูปที่สามารถย่อยสลายได้ เนื่องจากมีองค์ประกอบของแป้งในปริมาณสูง

สถานภาพการวิจัย

เสร็จสมบูรณ์

แผนงานวิจัยในอนาคต

นำเทคนิคและองค์ความรู้ไปต่อยอดพัฒนาสูตรหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อไป

รายชื่อทีมวิจัย

ดร.นพดล เกิดดอนแฝก, ดร.ศุภณัฐ ภัทรธีรา และ นายปราโมทย์ คุ้มสังข์

ติดต่อ

ชนิต วานิกานุกูล
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์ 02 564 6500 ต่อ 4788
อีเมล chanitw@mtec.or.th

The post Thermoplastic Starch จากกระบวนการอัดรีด<br/>แบบสกรูคู่ appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>
การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพิ่ม Recyclability ด้วยเทคโนโลยี “De-ink” https://www.mtec.or.th/research-projects-73550/ Wed, 29 Jan 2025 13:55:39 +0000 http://10.228.23.44:38014/?p=3130 การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพิ่ม Recyclability ด้วยเทคโนโลยี “De-ink” บริษัท ซิกเวอร์ค (ประเทศไทย) จำกัด (SWT) เป็นผู้ผลิตหมึกพิมพ์และสารเคลือบสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ดำเนินการด้านการพัฒนาคุณภาพและสมรรถนะทางสิ่งแวดล้อม SWT ... Read more

The post การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพิ่ม Recyclability ด้วยเทคโนโลยี “De-ink” appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>

การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพิ่ม Recyclability ด้วยเทคโนโลยี "De-ink"

บริษัท ซิกเวอร์ค (ประเทศไทย) จำกัด (SWT)

เป็นผู้ผลิตหมึกพิมพ์และสารเคลือบสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ดำเนินการด้านการพัฒนาคุณภาพและสมรรถนะทางสิ่งแวดล้อม SWT ได้พัฒนาหมึกพิมพ์ที่ปราศจากสารโทลูอีน ทั้งยังพัฒนาเทคโนโลยี “De-ink” ทำให้โรงงานรีไซเคิลสามารถผลิตวัสดุรอบสองที่ปราศจากการปนเปื้อนจากหมึกพิมพ์และมีคุณภาพทัดเทียมวัสดุรอบแรกได้ แต่การจะพัฒนาระบบการรีไซเคิลพลาสติกคุณภาพสูงให้เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติยังต้องอาศัยความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียตลอดโครงข่ายคุณค่าของผลิตภัณฑ์

กรณีศึกษาถุงนมโรงเรียน แต่ละปีจะมีเศษถุงนมเกิดขึ้นกว่า 1,000 ล้านชิ้น ถุงนมเหล่านี้ผลิตจากพลาสติก LLDPE และ LDPE คุณภาพสูงสามารถนำมาเป็นวัตถุดิบที่ดีได้ เนื่องจากมีคุณลักษณะและหน้าตาที่เป็นมาตรฐาน มีปริมาณที่ต่อเนื่อง มีปริมาตรไม่มาก อีกทั้งมีระบบโลจิสติกที่แน่นอนสามารถรับถุงนมกลับได้ แต่บนถุงนมมีการพิมพ์ลวดลายด้วยหมึกเต็มทั่วพื้นที่ ดังนั้นการนำถุงนมมารีไซเคิลเป็นวัสดุรอบสองที่มีคุณภาพสูงจึงทำได้ยาก 

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถรีไซเคิลกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่

SCGC ร่วมมือกับ SWT, MTEC, QPP และผู้มีส่วนได้เสียตลอดโครงข่ายคุณค่าของผลิตภัณฑ์ใช้การหมุนเวียนแบบวงรอบปิดของถุงนมโรงเรียน โดยรับฟังความเห็นและ Design inputs จากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยหลัก D4R (Design for Recycle) ศึกษาแนวทางการคงคุณค่าวัสดุในสายการผลิตจริงทั้งในแนวทางที่ลดการใช้หมึกพิมพ์และการ De-ink และร่วมพัฒนาสูตรคอมพาวนด์พลาสติกรีไซเคิลจากถุงนมโรงเรียน จนสามารถขึ้นรูปเป็นฟิล์มที่มีความหนา 30 ไมโครเมตรได้ โดยตัวแทนของเม็ดรีไซเคิลที่ลดปริมาณสีลงทำให้ฟิล์มที่ผลิตได้มีผิวเรียบ มีความหนาสม่ำเสมอ ขึ้นรูปได้อย่างต่อเนื่อง และมีคุณสมบัติเทียบเท่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นพลาสติกยังมีศักยภาพในการนำไปรีไซเคิลในรอบถัดๆ ไปได้ การผลิตเม็ดรีไซเคิลตามแนวทางนี้จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้ทดแทนเม็ดพลาสติกใหม่สำหรับผลิตเป็นถุงนมได้อีกครั้งถ้ากฎหมายอนุญาต

การที่ SWT ออกแบบให้หมึกพิมพ์ลอกออกง่าย ช่วยให้โรงพิมพ์ประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องเพิ่มชั้นไพร์เมอร์ (deinking primer) ก่อนจะพิมพ์หมึก อีกทั้งมีความปลอดภัยสูงทำให้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ได้สามารถนำกลับมาผลิตถุงนมในรอบต่อไปได้ถ้ากฎหมายอนุญาตยิ่งไปกว่านั้นยังมีศักยภาพในการนำไปรีไซเคิลในรอบถัดๆ ไปด้วย

“ซิกเวอร์คช่วยทำให้คุณภาพของพลาสติกที่อยู่ใน Loop นี้สามารถกลับไปเป็นบรรจุภัณฑ์เดิมซึ่งตอบโจทย์ Circular มากขึ้น คือเมื่อก่อนเป็นการ Down Grade วัสดุรีไซเคิล แต่ตอนนี้เป็น Circular จริงๆ ที่พลาสติกสามารถวนกลับมาเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารได้อีกครั้งหนึ่ง การวนไปได้เรื่อยๆ แบบนี้หมายถึงจะไม่มี Waste หรือขยะเกิดขึ้น”

ดวงดี อังศมาพร
Head of Brand Owner Collaboration, Circular Economy and Marketing, SEA บริษัท ซิกเวอร์ค (ประเทศไทย) จำกัด

The post การหมุนเวียนถุงนมโรงเรียนแบบวงรอบปิด (Closing the Loop) เพิ่ม Recyclability ด้วยเทคโนโลยี “De-ink” appeared first on MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ.

]]>