ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคทีซี ที่นอนน้ำ และ บริษัท กังวาลอุตสาหกรรมยาง จำกัด

จากซ้ายไปขวา ชวัลวัฒน์ ชินะพัฒนวงศ์, อัญฌากาญจ์ ชมกลิ่น บริษัท กังวาลอุตสาหกรรมยาง จำกัด และ กานต์ชนิต เทอดโยธิน, ธีรชัย เทอดโยธิน ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคทีซี ที่นอนน้ำ
“การทำงานวิจัยและพัฒนาร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ทำให้ได้ผลสัมฤทธิ์เป็นต้นแบบมาตรฐานของที่นอนน้ำยางพาราที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมฝีมือคนไทย ใช้วัตถุดิบยางพาราที่เป็นผลิตผลของเกษตรกรไทย ทุกฝ่ายต่างหวังว่าผลงานนี้จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยติดเตียงดีขึ้น”
“ที่นอนน้ำยางพารา” เกิดจากแนวคิดของคุณกานต์ชนิต เทอดโยธิน เป็นนวัตกรรมช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยติดเตียงจากแผลกดทับ เมื่อนำไปใช้งานก็ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ด้วยความร่วมมือระหว่างทีมวิจัยของเอ็มเทค กับบริษัท กังวาลอุตสาหกรรมยาง จำกัด
คุณกานต์ชนิตเป็นพยาบาลที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองตาก คลุกคลีอยู่กับผู้ป่วยติดเตียงซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานจากแผลกดทับ เธอเกิดแรงบันดาลใจต้องการช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่านี้จึงค้นคว้าข้อมูลวิชาการเกี่ยวกับที่นอนสำหรับผู้ป่วยติดเตียงในเว็บไซต์ของต่างประเทศ พบว่าที่นอนน้ำมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยติดเตียง
ในต่างประเทศมีการคิดค้นที่นอนน้ำมานานกว่า 300 ปีแล้ว แต่ไม่สามารถพัฒนาระบบการผลิตและรูปแบบที่เหมาะสมได้ จึงไม่ได้รับความนิยมมากนัก คุณกานต์ชนิตมุ่งมั่นที่จะพัฒนาที่นอนน้ำที่ใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพ
คุณกานต์ชนิตทดลองทำต้นแบบที่นอนน้ำรุ่นแรก โดยนำถุงพีวีซีสำหรับใส่ปัสสาวะถุงใหม่มาบรรจุน้ำแล้ววางเรียงต่อกันเป็นที่นอนน้ำให้ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับทดลองใช้ พบว่าผู้ป่วยหายเร็วขึ้น ส่วนผู้ป่วยที่เริ่มนอนติดเตียงที่ทำกายภาพบำบัดพร้อมกันไปด้วย ก็พบว่าไม่มีแผลกดทับเกิดขึ้น บ่งชี้ว่าที่นอนน้ำมีประโยชน์ต่อทั้งผู้ป่วยที่เป็นแผลกดทับและผู้ป่วยติดเตียง

อย่างไรก็ดี ต้นแบบถุงพีวีซีสำหรับใส่ปัสสาวะมีข้อจำกัดเนื่องจากมีอายุการใช้งานสั้น ถุงไม่ยืดหยุ่นและแตกง่าย คุณกานต์ชนิตจึงพยายามหาวัสดุอื่นมาทดแทน ในช่วงเวลานั้นมีข่าวเรื่องราคายางพาราตกต่ำ จึงเกิดความคิดที่จะใช้ยางพารามาผลิตเป็นที่นอนน้ำเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไทย จึงได้ติดต่อการยางแห่งประเทศไทยเพื่อให้ช่วยออกแบบและผลิตต้นแบบรุ่นต่อมา พบว่าใช้งานได้ดีกว่าการใช้ถุงพีวีซีสำหรับใส่ปัสสาวะถุงใหม่ แต่ยังมีข้อจำกัดที่การผลิตทำได้ยาก คุณภาพไม่สม่ำเสมอ ลอนที่นอนสั้น เมื่อนำมาต่อกันจะมีร่องและรอยต่อที่ทำให้เกิดความอับชื้น เสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อในผู้ป่วยได้ อีกทั้งมักเกิดรอยรั่วบริเวณจุกพลาสติกที่ใช้เติมน้ำและบริเวณก้นของลอนที่นอนที่ใช้กาวประสาน
คุณกานต์ชนิตต้องการพัฒนาลอนที่นอนให้ได้มาตรฐาน จึงติดต่อทีมวิจัยวัสดุและอุปกรณ์เฉพาะทางชีวภาพ และทีมวิจัยนวัตกรรมการแปรรูปยาง โดยมีฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเอ็มเทคช่วยประสานงานเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
คุณกานต์ชนิต กล่าวว่า “ทีมวิจัยของเอ็มเทคสามารถวิจัยและพัฒนาที่นอนน้ำยางพาราจนได้ต้นแบบที่ได้มาตรฐาน ทนทาน และมีความยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังแนะนำให้รู้จักกับคุณชวัลวัฒน์ บริษัท กังวาลอุตสาหกรรมยาง จำกัด เพื่อให้เป็นคู่ธุรกิจ เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตยางท่อสำเร็จรูปสำหรับใช้ผลิตยางจัดฟันและยางรัดของสำหรับจำหน่ายภายในประเทศและต่างประเทศอยู่แล้ว และยางพาราที่ใช้เป็นยางเกรดสำหรับอาหารจึงไม่มีกลิ่น ทำให้ที่นอนน้ำที่ผลิตได้มีคุณภาพเกินกว่าที่คาดหวังไว้ กล่าวคือ ยืดหยุ่น ทนทาน ไม่รั่วซึม และยังปราศจากกลิ่นยางที่เคยเป็นปัญหาใหญ่มาก่อน”
คุณชวัลวัฒน์ กล่าวว่า “บริษัทฯ ร่วมวิจัยและพัฒนากับทีมวิจัยนวัตกรรมการแปรรูปยางของเอ็มเทคมานาน โดยทีมวิจัยช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยางเส้นรัดของไร้สารก่อมะเร็ง เพื่อผลิตส่งออกไปยังประเทศในแถบยุโรป เมื่อมีโอกาสทำงานร่วมกับทีมวิจัยเรื่องที่นอนน้ำ จึงใช้องค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ขึ้นรูปยางพาราให้เป็นท่อขนาดใหญ่ โดยใช้ยางเกรดสำหรับอาหารที่ไร้สารก่อมะเร็งที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้น เมื่อนำมาผลิตที่นอนน้ำจึงไร้กลิ่น และไม่ระคายเคืองผิวหนัง”

“มีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกับทีมวิจัยเอ็มเทค เพราะเป็นมืออาชีพที่ชำนาญทั้งเรื่องวัสดุ การออกแบบ การทดสอบ และเป็นที่ปรึกษาเรื่องการผลิต ทำให้เราซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีความมั่นใจและอุ่นใจว่าได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยงานวิจัยเชิงนวัตกรรม”
ทั้งคุณกานต์ชนิต และคุณชวัลวัฒน์ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “การได้ทำงานร่วมกันเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน มีการระดมสมองร่วมกันเพื่อพัฒนาที่นอนน้ำ มีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกับทีมวิจัยเอ็มเทค เพราะเป็นมืออาชีพที่ชำนาญทั้งเรื่องวัสดุ การออกแบบ การทดสอบ และเป็นที่ปรึกษาเรื่องการผลิต ทำให้เราซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีความมั่นใจและอุ่นใจว่าได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยงานวิจัยเชิงนวัตกรรม”
การทำงานวิจัยและพัฒนาร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ทำให้ได้ผลสัมฤทธิ์เป็นต้นแบบมาตรฐานของที่นอนน้ำยางพาราที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมฝีมือคนไทย ใช้วัตถุดิบยางพาราที่เป็นผลิตผลของเกษตรกรไทย ทุกฝ่ายต่างหวังว่าผลงานนี้จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยติดเตียงดีขึ้น ลดปัญหาให้แก่ตัวผู้ป่วย ผู้ดูแล และ บุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ประหยัดงบประมาณในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นแผลกดทับ อีกทั้งการใช้ยางพาราก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยเหลือชาวสวนยาง
เพื่อเป็นการยกระดับที่นอนน้ำให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและใช้งานได้อย่างกว้างขวางทั้งภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคทีซี ที่นอนน้ำ บริษัท กังวาลอุตสาหกรรมยาง จำกัด และทีมวิจัยของเอ็มเทคได้ร่วมมือกันผลักดันเพื่อให้มีการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ของที่นอนน้ำจากยางพารา

คุณกานต์ชนิตมีแผนที่จะต่อยอดการพัฒนาที่นอนน้ำยางพาราร่วมกับทีมวิจัยเอ็มเทค เพื่อลดข้อจำกัดและตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลังการใช้งานมากขึ้น เช่น การพัฒนาที่นอนน้ำให้มีน้ำหนักลดลง และสามารถปรับอุณหภูมิให้สูงหรือต่ำได้ตามความต้องการ
คุณกานต์ชนิตเสนอว่า “หน่วยงานภาครัฐควรสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาที่นอนน้ำยางพารา เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการใช้งานยางพาราภายในประเทศแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยแผลกดทับได้หลายสิบล้านบาทต่อปีด้วย”
คุณชวัลวัฒน์ คาดหวังว่า “จะสามารถผลิตที่นอนน้ำยางพาราส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียน และหากเป็นไปได้น่าจะขยายตลาดไปทั่วโลก”