บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

มนัสวีร์ เรืองเดช
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและก่อสร้าง
“ทีมวิจัยเอ็มเทคทำงานมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจ สามารถเข้าใจปัญหาและเสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหา มีการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ สามารถตอบโจทย์ได้ตรงประเด็น รวมถึงส่งมอบผลงานได้ตรงเวลาตามที่ตกลงไว้”
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ดำเนินตามนโยบายด้านความปลอดภัย มั่นคง อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม และแนวทางการบริหารจัดการสีเขียว เพื่อให้การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
คุณมนัสวีร์ เรืองเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและก่อสร้าง เล่าว่า “ปตท.สผ. มีแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติที่กำลังจะสิ้นอายุสัมปทาน บริษัทฯ จะต้องรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในกิจการปิโตรเลียม ซึ่งการรื้อถอนก็ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบกระทรวง และประกาศกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ แต่ยังอยู่ในระหว่างการกำหนดวิธีการรื้อถอนโดยภาครัฐ บริษัทฯ จึงถือโอกาสนี้ทำงานร่วมกับสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางที่ดีและเหมาะสมทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการเตรียมการล่วงหน้าสำหรับบริษัทฯ”
“บริษัทฯ เห็นว่าเอ็มเทคเป็นหน่วยงานระดับชาติที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในด้านงานวิจัย มีนักวิจัยที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมด้านเครื่องมือ ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะทำงานร่วมกับเอ็มเทค เพื่อสร้างนวัตกรรมจากฝีมือของคนไทยที่เกิดประโยชน์ต่อทั้งบริษัทฯ และประเทศชาติ รวมถึงเป็นต้นแบบความร่วมมือของการทำงานวิจัยระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลกับหน่วยงานเอกชน”
“งานที่ทำร่วมกันเป็นการศึกษาการจัดการสารต่าง ๆ ที่อยู่ในท่อใต้ทะเล เพื่อให้สามารถเก็บท่อไว้ใต้ทะเลได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหลังจากหมดสัมปทานการผลิตแล้ว บริษัทฯ และเอ็มเทคร่วมกันพัฒนาสารเคมีและวิธีการกำจัดสารเหล่านั้นออกจากผิวท่อโดยไม่ต้องยกท่อขึ้นจากใต้ทะเล”
“จากการทดสอบในโรงงานต้นแบบพบว่า สารเคมีและวิธีการที่พัฒนาขึ้นสามารถล้างสารออกจากท่อได้สูงถึงร้อยละ 80-99 ซึ่งเป็นที่น่าพอใจมาก นอกจากนี้ สารเคมีดังกล่าวยังมีราคาถูกกว่าสารเคมีในท้องตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนท่อจากใต้ทะเลได้มหาศาล รวมถึงลดปัญหาการรบกวนสัตว์หน้าดิน และปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรื้อถอนท่อขึ้นมาจากใต้ทะเล”

คุณมนัสวีร์กล่าวชื่นชมว่า “ทีมวิจัยเอ็มเทคทำงานมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจ สามารถเข้าใจปัญหาและเสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหา มีการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ สามารถตอบโจทย์ได้ตรงประเด็น รวมถึงส่งมอบผลงานได้ตรงเวลาตามที่ตกลงไว้ มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน อีกทั้งได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมที่เป็นที่ยอมรับทั้งในบริษัทฯ และสามารถเผยแพร่ในระดับสากลได้”
สำหรับแผนการพัฒนาต่อยอดและการขยายผลการใช้งาน คุณมนัสวีร์กล่าวว่า “บริษัทฯ จะร่วมกับทีมวิจัยเอ็มเทคเพื่อพัฒนาปรับปรุงสูตรของสารเคมีต่อไป โดยสูตรใหม่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะพัฒนาให้สารเคมีมีความเหมาะสมสำหรับล้างอุปกรณ์อื่นๆ ในระหว่างการซ่อมบำรุงทั้งบนแท่นผลิตของบริษัทฯ และอุปกรณ์การผลิตของลูกค้าที่อาจเกิดการปนเปื้อนจากการขนส่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ”
“บริษัทฯ จะร่วมกับทีมวิจัยเอ็มเทคเพื่อพัฒนาปรับปรุงสูตรของสารเคมีต่อไป โดยสูตรใหม่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะพัฒนาให้สารเคมีมีความเหมาะสมสำหรับล้างอุปกรณ์อื่นๆ ในระหว่างการซ่อมบำรุงทั้งบนแท่นผลิตของบริษัทฯ และอุปกรณ์การผลิตของลูกค้าที่อาจเกิดการปนเปื้อนจากการขนส่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ”
ส่วนกิจกรรมที่เอ็มเทคควรมุ่งเน้นเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทฯ หรืออุตสาหกรรมอื่นในภาพรวมนั้น คุณมนัสวีร์กล่าวว่า “การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยแก้ปัญหาให้แก่ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการวิจัยพัฒนาเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากในกระบวนการผลิต ถ้าเอ็มเทคพัฒนาตนเองให้เป็นองค์กรที่เข้าหาภาคเอกชนได้อย่างเป็นระบบ ก็จะช่วยให้รู้ปัญหาของอุตสาหกรรมและนำไปเป็นโจทย์วิจัยได้”
“นอกจากนี้ การประชาสัมพันธ์ตนเองว่าสามารถสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมได้อย่างไร ก็จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย กล่าวคือสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และเกิดความร่วมมือเพื่อต่อยอดการวิจัยพัฒนาในประเทศต่อไปอย่างต่อเนื่อง” คุณมนัสวีร์กล่าวเสริม
“ตั้งแต่ปี 2557 ที่เริ่มทำงานร่วมกันก็เป็นไปด้วยความราบรื่นดี ผลงานที่เกิดขึ้นก็มีคุณภาพ บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะทำงานร่วมกับทีมวิจัยเอ็มเทคอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การผลิตนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในยุค 4.0 ที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วได้อย่างต่อเนื่องนั้น ต้องใช้ความทุ่มเทอย่างจริงจัง ถ้าเอ็มเทคสามารถผลิตนักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถออกมาอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยีในภาพรวมไม่เฉพาะในระดับบริษัท แต่ยังต่อเนื่องไปถึงระดับประเทศด้วย” คุณมนัสวีร์กล่าวทิ้งท้าย