การพัฒนา ‘เกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนของวัตถุดิบ’ สำหรับการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน
เรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้ ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ
เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel, SAF) เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้วหรือวัตถุดิบทางการเกษตร องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization, ICAO) มีมาตรการส่งเสริมการใช้งานเชื้อเพลิงประเภทนี้ เนื่องจากมีศักยภาพมากที่สุดในการลดก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมการบิน
ปี ค.ศ. 2027-2035 ICAO มีแผนเริ่มใช้มาตรการภาคบังคับ เพื่อรักษาเสถียรภาพการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการบินระหว่างประเทศไม่ให้เพิ่มขึ้นเกินกว่า 85% ของปริมาณการปล่อยคาร์บอนในปี 2019 ทุกสายการบินจะต้องรายงานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเส้นทางการบินระหว่างประเทศเป็นประจำทุกปี หากปริมาณการปล่อยสูงกว่าค่าฐานของปี 2019 ก็ต้องซื้อคาร์บอนเครดิต หรือชดเชยด้วยการใช้ SAF
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย มีแนวทางส่งเสริมการใช้ SAF 1% ภายในปี 2025 และกำหนดสัดส่วนการใช้เป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 (2027-2029) ใช้ SAF 2% ที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้วหรือกรดไขมันปาล์มกลั่น ระยะที่ 2 (2030-2032) ใช้ SAF 3% ที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้ว กรดไขมันปาล์มกลั่น หรือกากน้ำตาล และระยะที่ 3 (2033-2037) ใช้ SAF 5-8% ที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้ว กรดไขมันปาล์มกลั่น กากน้ำตาล และวัตถุดิบทางการเกษตรอื่นๆ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง หรือน้ำมันปาล์มดิบที่ผ่านมาตรฐานความยั่งยืน
ทีมวิจัยการประเมินความยั่งยืนและเศรษฐกิจและสังคม สถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. มีส่วนช่วยผลักดันการใช้ SAF โดยดำเนินงานโครงการพัฒนาเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนของวัตถุดิบสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนของประเทศ ร่วมกับสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย สมาคมเอทานอลจากมันสำปะหลัง และหน่วยงานพันธมิตร โดยได้รับการสนับสนุนทุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ภายใต้สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)
ทีมวิจัยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาค่าเกณฑ์มาตรฐานของวัตถุดิบเป้าหมาย เพื่อใช้ประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิต (Core Life Cycle Assessment) ตั้งแต่การปลูกพืชวัตถุดิบไปจนถึงเชื้อเพลิงอากาศยาน ศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อพิสูจน์ว่า SAF ที่ผลิตจากวัตถุดิบในประเทศสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 10% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอากาศยานดั้งเดิม และไม่ได้ผลิตจากวัตถุดิบที่มาจากการบุกรุกพื้นที่ป่าหลังวันที่ 1 มกราคม 2551
ทีมวิจัยยังศึกษาประเด็นสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย ตลอดจนจัดทำร่างมาตรฐานความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพตามบริบทของประเทศที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและผลักดันเพื่อให้ร่างมาตรฐานได้การรับรอง

โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกรและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพเพื่อเป็นวัตถุดิบให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ อีกทั้งช่วยให้อุตสาหกรรมการบินไทยปฏิบัติตามนโยบายของอุตสาหกรรมการบินโลก รวมถึงสร้างโอกาสและเสริมศักยภาพให้แก่ประเทศในการเป็นศูนย์กลางด้านการบินของภูมิภาคอีกด้วย
ติดต่อสอบถามข้อมูล:
ดร.เสกสรร พาป้อง ทีมวิจัยการประเมินความยั่งยืนและเศรษฐกิจและสังคม สถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)
โทรศัพท์ 0 2564 6500 ต่อ 4771
อีเมล: seksanp@mtec.or.th