เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568
ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ดร.สมบูรณ์ โอตรวรรณะ นักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) และนายพงศ์ภัทร ทองมาก ที่ปรึกษาอาวุโส ITAP เข้าร่วมเป็นวิทยากรในการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การขยายผลนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ในการบรรเทาการกัดเซาะชายฝั่งและการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและชุมชนชายฝั่งสู่ระดับนโยบาย”
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ Newcastle University ประเทศสหราชอาณาจักร ภายใต้การสนับสนุนจาก Research Collaborations Global (ISPF) โดย British Council มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ (Nature-inspired Innovation) ในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง การฟื้นฟูระบบนิเวศ และการพัฒนาชุมชนชายฝั่งอย่างยั่งยืน รวมถึงการเชื่อมโยงผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การกำหนดนโยบายในระดับประเทศ
ดร.สมบูรณ์ โอตรวรรณะ บรรยายเรื่อง “บทบาทของการออกแบบและคำนวณเชิงวิศวกรรมในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการป้องกันชายฝั่ง” ซึ่งเป็นการนำเสนอผลงานที่ผ่านมาและขีดความสามารถของเอ็มเทคในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณทางวิศวกรรม (Computer-Aided Engineering: CAE) และองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมเครื่องกลและวิศวกรรมวัสดุเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อบรรเทาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง (coastal erosion) ส่วนนายพงศ์ภัทร ทองมาก ได้นำเสนอบทบาทและบริการของโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovation Technology Assistance Program: ITAP) ในการช่วยสนับสนุนโครงการด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ
สำหรับงานการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้เป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ เช่น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมเจ้าท่า องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชนเพื่อการกุศล มหาวิทยาลัยต่าง ๆ สวทช. เป็นต้น เพื่อร่วมรับฟังและให้ข้อมูลในเชิงวิสัยทัศน์ นโยบาย และการดำเนินงาน รวมถึงปัญหาและอุปสรรค ในการบริหารพื้นที่ชายฝั่งภายใต้ความเสี่ยงอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเชิงธรรมชาติของประเทศเพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นประเทศชั้นนำด้าน Climate–Coastal Resilience ของโลก