เอ็มเทค สวทช. ร่วมจัดงาน Kick-Off Workshop in Thailand 2025 ภายใต้โครงการ Asian Life Cycle Inventory (LCI) Database Project

วันที่ 2 ตุลาคม 2568
ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ)

          สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ร่วมกับ Research Laboratory for IDEA (IDEA Lab), National Institute of Advanced Industrial Science and Technology (AIST) ประเทศญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดงาน Kick-Off Workshop in Thailand 2025 ภายใต้โครงการ Asian Life Cycle Inventory (LCI) Database Project โดยกิจกรรม Workshop ในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 2 วัน (2-3 ต.ค.68) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการจัดทำชุดข้อมูลที่ครอบคลุมอย่างเป็นระบบ การวางรากฐานของเครือข่ายที่เข้มแข็งในการจัดทำ Life Cycle Inventory และการประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นต์ และการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment)

           ในช่วงพิธีเปิด ดร.อศิรา เฟื่องฟูชาติ รองผู้อำนวยการเอ็มเทค ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมและกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการในฐานะหน่วยงานผู้ร่วมจัดงาน จากนั้น ดร.จิตติ มังคละศิริ หัวหน้าทีมวิจัยพัฒนาฐานข้อมูลตลอดวัฏจักรชีวิตและการประยุกต์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและการค้า สถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (TIIS) และรองผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพค.) ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “Life Cycle Assessment Journey: From Zero to Net Zero Era” โดยในการบรรยาย ดร.จิตติ ได้แบ่งปันแนวคิดในการพัฒนาระบบ Life Cycle Assessment (LCA) ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ยังขาดข้อมูล (Zero) ไปจนถึงการใช้ LCA เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างมีระบบ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการสร้างความเข้าใจเชิงลึกด้าน LCA และการวางโครงสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งสำหรับการนำไปใช้จริงในระดับองค์กร อุตสาหกรรม และประเทศ ทั้งในแง่ของการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นต์ การประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ และการสนับสนุนแนวนโยบายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว และ Dr. Kiyotaka Tahara ผู้อำนวยการ IDEA Lab, AIST ได้บรรยายสรุปภาพรวมโครงการ Asian Life Cycle Inventory Database Project ซึ่งกิจกรรม workshop ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 session ประกอบไปด้วยการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของการดำเนินงานด้าน LCA และ LCI ของประเทศ ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย และการแบ่งกลุ่มอภิปรายและสรุปผลร่วมกัน

ซึ่งงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 30 คน จากหลากหลายประเทศในเอเชีย ได้แก่ ไทย บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างประเทศในการผลักดันการพัฒนาฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของภูมิภาค