ระบบเลี้ยงสัตว์น้ำหนาแน่นแบบน้ำไหลเวียนอัจฉริยะ
เรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้ ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ
การเลี้ยงสัตว์น้ำในประเทศไทยนิยมใช้บ่อดินหรือกระชัง หากเลี้ยงในบ่อดิน เกษตรกรต้องใช้ทั้งพื้นที่และน้ำในปริมาณมาก หากเลี้ยงในกระชังโดยอาศัยแหล่งน้ำธรรมชาติ ก็อาจประสบปัญหาน้ำน้อยในช่วงหน้าแล้ง แต่หากเลี้ยงเหนือเขื่อน ก็อาจเกิดแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ในช่วงฤดูหนาวซึ่งอาจทำให้เกิดประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม
ทีมวิจัยของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือ เอ็มเทค สวทช. ได้พัฒนาระบบเลี้ยงสัตว์น้ำหนาแน่นแบบน้ำไหลเวียนอัจฉริยะ (Smart Intensive Recirculating Aquaculture System) ที่ไม่เพียงแก้ปัญหาข้างต้น แต่ยังช่วยเพิ่มผลผลิต และลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค
ระบบเลี้ยงสัตว์น้ำหนาแน่นแบบน้ำไหลเวียนอัจฉริยะประกอบด้วยบ่อเลี้ยง เครื่องดักกรองของเสีย สำหรับดักกรองอนุภาคของแข็งขนาดเล็ก โปรตีนสกิมเมอร์สำหรับดักจับเมือกหรือสารประกอบโปรตีน ระบบกรองชีวภาพเพื่อใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียที่เป็นพิษให้กลายเป็นสารที่อันตรายน้อยลง เครื่องแยกแก๊สสำหรับกำจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และเตรียมน้ำสำหรับเติมออกซิเจนบริสุทธิ์ เครื่องเติมออกซิเจน หลอดยูวีสำหรับฆ่าเชื้อ ระบบท่อและปั๊ม และระบบควบคุมการทำงาน
ทีมวิจัยได้พัฒนาซอฟต์แวร์ RASCAL สำหรับควบคุมการทำงาน รวมถึงประเมินต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เกษตรกรเพียงแค่ระบุชนิดของสัตว์น้ำและความหนาแน่นของสัตว์น้ำ ซอฟต์แวร์ก็จะคำนวณอุปกรณ์ที่ต้องใช้และประเมินราคา นอกจากนี้ยังสามารถประเมินระยะเวลาคืนทุนหากเลี้ยงสำเร็จตามเป้าหมายเพื่อใช้ประกอบการวางแผนตั้งแต่ต้น
ทีมวิจัยได้พัฒนาระบบตรวจวัดเพื่อควบคุมคุณภาพของน้ำ เช่น อุณหภูมิ ค่าความเค็ม ปริมาณออกซิเจน และค่าความเป็นกรด-ด่าง เพราะปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ
อุปกรณ์ที่ใช้ระบบล้วนผลิตได้ในประเทศ ทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงระบบเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีคุณภาพได้ในราคาที่สมเหตุสมผล เช่น ระบบเติมออกซิเจน และระบบกำจัดของเสียและฆ่าเชื้อโรค พารามิเตอร์ที่ใช้ในระบบเหล่านี้ได้รับการคำนวณเพื่อให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและใช้พลังงานน้อยที่สุด
ทีมวิจัยทดสอบระบบเลี้ยงสัตว์น้ำหนาแน่นแบบน้ำไหลเวียนอัจฉริยะกับปลากะพง ปลาดุก และกุ้งขาว พบว่าสามารถเลี้ยงสัตว์น้ำได้หนาแน่นขึ้น เช่น ปลากะพงสามารถเลี้ยงได้ถึง 25 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร และกุ้งขาว 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร
จากการทดสอบพบว่ามีการใช้น้ำน้อยลงและสามารถนำน้ำมาหมุนเวียนใช้ซ้ำได้ มีอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักตัว หรืออัตราการแลกเนื้อ (Feed Conversion Ratio, FCR) ต่ำ สัตว์น้ำเจริญเติบโตเร็ว ให้น้ำหนักดี และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาดโดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
ผู้สนใจการออกแบบระบบเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ หรือต้องการที่ปรึกษาระหว่างการเลี้ยง
ติดต่อสอบถามข้อมูล
ดร.ยศกร ประทุมวัลย์ หัวหน้าทีมวิจัยคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณทางวิศวกรรม กลุ่มวิจัยการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการคำนวณ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)
โทรศัพท์ 0 2564 6500 ต่อ 4630
อีเมล: yotsakp@mtec.or.th