นวัตกรรม ‘รถพยาบาลรุ่นใหม่’ จากชิ้นส่วนประกอบสำเร็จรูป

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

รถตู้พยาบาลเป็นรถเฉพาะกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อขนย้ายผู้ป่วยจากจุดที่ต้องการไปยังโรงพยาบาล โดยบุคลากรทางการแพทย์สามารถทำหัตถการฉุกเฉินบนรถเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยในระหว่างการนำส่งได้

อย่างไรก็ดี โครงสร้างห้องโดยสารของรถตู้พยาบาลที่ใช้กันอยู่แต่เดิมได้รับการดัดแปลงจากรถตู้พาณิชย์โดยผู้ผลิตรถเฉพาะทาง โดยยังมีจุดอ่อนหรือข้อจำกัดในด้านต่างๆ ไม่ว่าเทคโนโลยี ต้นทุนการผลิต รวมทั้งการที่ยังไม่มีเกณฑ์ควบคุมความปลอดภัยที่ชัดเจน

ด้วยเหตุนี้ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. จึงร่วมกับบริษัท สุพรีร่า อินโนเวชั่น จำกัด บริษัทสตาร์ทอัพ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ออกแบบสร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ด้วยฝีมือคนไทย

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการให้กลายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม ดำเนินการภายใต้โครงการรับจ้างวิจัยของเอ็มเทคร่วมกับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ “ยกระดับนวัตกรรมฐานวัสดุสู่ตลาดชั้นนำ เพื่อการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” โดยได้รับทุนจาก บพข. แผนงานวิจัย แผนงานพัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรม (Innovation Driven Enterprises: IDEs) ขนาดใหญ่

การดำเนินงานได้ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านความสามารถในกระบวนการผลิต ทีมนักวิจัยของกลุ่มวิจัยการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการคำนวณและฝ่ายพัฒนาธุรกิจได้ร่วมกันผลักดันการวิจัยและพัฒนาการขึ้นรูปรถพยาบาลรุ่นใหม่ด้วยนวัตกรรมการออกแบบชิ้นส่วนสำเร็จรูป (prefabrication design) เสริมกับการออกแบบที่ใช้หลักที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ (Human-Centered Design: HCD) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่คนไข้และบุคลากรทางการแพทย์

โครงการได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ พัฒนาผลิตภัณฑ์รถรุ่นใหม่ (product innovation) และ กระบวนการผลิตใหม่ (process innovation) ซึ่งช่วยลดเวลา ลดต้นทุน และสร้างแบรนด์ให้เกิดการรับรู้ในตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ โครงการยังจัดอบรมความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่องค์กรนวัตกรรมของบริษัท และช่วยสนับสนุนยื่นจดทรัพย์สินทางปัญญากระบวนการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดส่งออก

โครงการประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เนื่องจากช่วยลดต้นทุนการผลิตรถพยาบาลได้ 20% จากการลดจำนวนคนงานในการผลิต และลดระยะเวลาการผลิตลง 43% จาก 7 วัน เหลือ 4 วัน ต่อคัน ทำให้กำลังการผลิตมากขึ้น และมีเป้าหมายเข้าสู่ตลาด Basic Life Support (BLS) ซึ่งมีปริมาณความต้องการใช้ที่สูงกว่า อีกทั้งยังสามารถส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการใช้รถพยาบาลที่มีคุณภาพและปลอดภัย

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังสนับสนุนการขยายบริการจากผู้ผลิตไปสู่ผู้ให้บริการ “Smart Tele-medicine Platform” ตาม Vision ขององค์กรที่ว่า “เราจะเป็นผู้นำในธุรกิจบริการจัดส่งและดูแลสุขภาพผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้สูงวัย”

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th