เปลี่ยน “อะลูมิเนียมดรอส” เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ

ในยุคที่ทรัพยากรธรรมชาติเริ่มร่อยหรอลงเรื่อยๆ อุตสาหกรรมการผลิตจึงให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ คือการจัดการอะลูมิเนียมดรอส (aluminum dross) ซึ่งเป็นของเสียที่เกิดจากกระบวนการหลอมอะลูมิเนียมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดต้นทุนในการกำจัด

เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม จึงริเริ่มโครงการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมเพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีการรีไซเคิลและการอัปไซเคิล โดยมีศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เอ็มเทค สวทช. เป็นที่ปรึกษาโครงการ

บริษัท แคป โกลบอล อลูมิเนียม จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและรีไซเคิลอะลูมิเนียม ได้มองเห็นโอกาส และสนใจนำอะลูมิเนียมดรอสกลับมาใช้ประโยชน์ จึงเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อเปลี่ยน “ของเสีย” ให้กลายเป็น “วัตถุดิบรอง” ที่มีคุณค่า วัตถุดิบที่ได้สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์

ทีมที่ปรึกษา เอ็มเทค สวทช. ได้ทำงานร่วมกับบริษัทฯ โดยเข้าสำรวจกระบวนการผลิต ร่วมวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิต ทำให้สามารถปรับลดปริมาณฟลักซ์ที่ใช้ในเตาโรตารี่ลง 60% จากเดิม

นอกจากนี้ ยังได้วิเคราะห์ปริมาณคลอไรด์ในดรอสหลังการหลอมให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ โดยสามารถลดค่าคลอไรด์จาก 1.7% เหลือเพียง 0.6% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถนำวัสดุนี้ไปใช้ผสมในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ได้

ในภาพรวม บริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่ายในการจัดการของเสียและสารเคมีในกระบวนการ คิดเป็นเงินราว 936,000 บาทต่อปี พร้อมกันนั้นก็ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 26,889 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อเดือน นับเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการจัดการของเสียและลดต้นทุนของสารเคมีที่ใช้ ทั้งยังสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ

บริษัทฯ มีแผนต่อยอดความสำเร็จนี้โดยทดลองใช้ในระดับอุตสาหกรรมจริง หลังจากได้รับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเกิดดรอสและวิธีการบำบัดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จึงช่วยลดการฝังกลบของดรอส เนื่องจากสามารถนำอะลูมิเนียมดรอสที่ปรับปรุงแล้วไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ได้ ทั้งนี้มีการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ พบว่าต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลง

โครงการนี้เป็นต้นแบบสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิจัย ในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในอนาคต

การดำเนินการตามแนวทางของโครงการจะช่วยลดต้นทุนด้านการจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยรวม และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยส่งเสริมการบริหารจัดการของเสียที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยดำเนินงานตามแนวทางระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน

สอบถามเพิ่มเติม:
คุณระพีพันธ์ ระหงษ์
งานประสานธุรกิจและอุตสาหกรรม ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
โทรศัพท์: 0 2564 6500 ต่อ 4789
อีเมล: rapeepr@mtec.or.th หรือ
คุณณัฐพงศ์ ณ ลำพูน
กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กพร.
โทรศัพท์ 0 2430 6842 ต่อ 4211
อีเมล: Nattapong_n@dpim.go.th