ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. วิจัยพัฒนาสารอินทรีย์เรืองแสงสำหรับระบบตรวจวัดปริมาณเอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนและนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน ภายใต้สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีอาหาร คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีโลหะและวัสดุ พลังงาน และนาโนเทคโนโลยี https://www.nstda.or.th/home/news_post/pr-nstda-mou-29022567
ดร.ธนศาสตร์ สุขศรีเมือง นักวิจัยอาวุโส หัวหน้าทีมวิจัยนวัตกรรมการดัดแปรวัสดุ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) และเป็นหัวหน้าโครงการร่วมวิจัยการพัฒนาระบบตรวจวัดสำหรับการวิเคราะห์เอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงในตำแหน่งที่ต้องการ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เริ่มแรกทีมวิจัยเอ็มเทคได้ทำงานร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านการทำโครงการร่วมวิจัยภายใต้ศูนย์วิจัยนานาชาติด้านความมั่นคงทางอาหาร (International Joint Research Center on Food Security หรือ
IJC-FOODSEC) ซึ่งการวิจัยในขณะนั้นยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิธีการวัดเอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง เพียงแต่ได้ทราบโจทย์จากภาคอุตสาหกรรมถึงความต้องการวิธีการตรวจวัดวัดเอทานอลในอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นวิธีง่ายๆ ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งวิธีเดิมที่ใช้อยู่นั้นเป็นวิธีที่ต้องใช้สารเคมีที่อาจมีความเป็นพิษสูงและใช้เวลานานในการตรวจวัด ทีมวิจัยจึงได้ศึกษาการใช้เทคโนโลยีฟลูออเรสเซนส์ในการตรวจวัดปริมาณเอทานอลในอุตสาหกรรมอาหารบางประเภทว่าสามารถทำได้หรือไม่ ทำให้ได้ข้อมูลเป็นองค์ความรู้เบื้องต้น
จากจุดเริ่มต้นดังกล่าวในระหว่างการทำงานร่วมกับเนคเทคก็ทำให้ทราบว่า คณะผู้บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในโอกาสที่ได้เยี่ยมชม สวทช. และมีโจทย์ในการวิจัยว่าต้องการวิธีการตรวจวัดปริมาณเอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นวิธีที่ง่ายสะดวกและมีค่าใช้จ่ายแบบไม่แพงมากนักเพื่อทดแทนวิธีที่บริษัทฯใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการตรวจวัดปริมาณเอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงมีความสำคัญค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น ในกรณีของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์หากปริมาณเอทานอลไม่ได้มาตรฐานอาจจะจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ ทางบริษัทฯ จึงต้องการควบคุมคุณภาพตรงนี้
จากนั้นทีมวิจัยเอ็มเทคและเนคเทคได้ร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้เทคโนโลยีฟลูออเรสเซนส์ในการตรวจวิเคราะห์เอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อที่จะตอบโจทย์ให้กับทางบริษัทฯ พร้อมกันนี้ทีมวิจัยก็ได้ร่วมหารือกับทีมวิจัยของบริษัทฯ เพื่อให้ทราบปัญหาที่แท้จริงต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง จนกระทั่งบริษัทฯ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมผลงานของทีมวิจัยเอ็มเทคและเนคเทค และทราบว่าเรามีเทคโนโลยีที่มีความเป็นไปได้สูงที่สามารถตอบโจทย์ของบริษัทฯได้ จึงเกิดความร่วมมือเป็นโครงการร่วมวิจัยการพัฒนาระบบตรวจวัดสำหรับการวิเคราะห์เอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงในตำแหน่งที่ต้องการขึ้น โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณเอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงที่สามารถใช้งานได้จริงในภาคสนาม ทั้งนี้ ระบบตรวจวัดประกอบไปด้วยสารเรืองแสงฟลูโอเรสเซนต์ซึ่งทีมวิจัยเอ็มเทคเป็นผู้พัฒนาที่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงสมบัติเชิงแสงเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเอทานอลผสมอยู่ ทำงานร่วมกันกับเครื่องมือวิเคราะห์แสงสีหลายความยาวคลื่นขนาดเล็กที่พกพาได้ซึ่งเนคเทคเป็นผู้พัฒนาขึ้น
ดร.ธนศาสตร์ กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินโครงการแบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรกเป็นการพัฒนาระบบทั้งตัวเครื่องมือและสารเคมี ซึ่งจะสร้างเครื่องต้นแบบประมาณ 10 เครื่อง ส่วนตัวสารเคมีจะทำเป็นสารเคมีที่อยู่ในสภาวะและบรรจุภัณฑ์พร้อมใช้งาน ซึ่งสามารถใช้สำหรับการทดสอบได้ประมาณ 3 เดือน และจะส่งมอบให้บริษัทฯนำไปทดลองใช้จริงในภาคสนาม เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบตรวจวัดและรับทราบปัญหาการใช้งานที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม ระยะที่สอง จะนำระบบการตรวจวัดมาพัฒนาเพิ่มเติมให้มีระบบที่ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานจริงให้ได้ดีขึ้น ทั้งนี้สำหรับสารเคมีนอกจากการใช้งานจริงได้แล้วเราจะต้องพัฒนาและศึกษาความเสถียรของสารเคมี เช่น สามารถเก็บไว้ได้นานแค่ไหน การใช้งานสามารถเก็บทั้งตัวสารเคมีและตัวอย่างได้ดีอย่างไรเพื่อที่จะทำให้สามารถตรวจสอบในภายหลังเมื่อมีความจำเป็นได้อีกด้วย
ส่วนระยะที่สาม โครงการมีจุดมุ่งหมายในการขยายการพัฒนาระบบตรวจวัดทั้งด้านสารเคมีและเครื่องอ่านให้มีมาตรฐานสามารถใช้งานได้ในระยะยาวครอบคลุมทั้งภายในประเทศไทย ระดับภูมิภาคหรือในระดับโลก ซึ่งสถานภาพของการวิจัยในปัจจุบัน ทีมวิจัยได้พัฒนาเครื่องมือที่มีความพร้อมสามารถทำงานร่วมกับสารเคมีที่พัฒนาขึ้น ตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของทาง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ที่ได้ให้โจทย์กับทีมวิจัยมาตั้งแต่ต้น ซึ่งการตรวจวัดปริมาณเอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิงให้ค่าความถูกต้องแม่นยำได้ผลเป็นที่น่าพอใจ